บริษัท พี อาร์ จี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจในเครือข้าวมาบุญครอง หนุนศักยภาพอุตสาหกรรมอาหาร เปิดพื้นที่ให้เยาวชนไทย บ่มเพาะประสบการณ์การเป็นเชฟ ผ่านการร่วมสนับสนุนการแข่งขัน Gourmet & Cuisine Young Chef 2022 เพื่อผลิตเชฟรุ่นใหม่ สร้างสรรค์ผลงานสุดเจ๋ง พร้อมนำวัตถุดิบท้องถิ่น และเมนูอาหารไทย ต่อยอดให้ไกลสู่ตลาดโลก
นางสาวมัลลิกา บุระขันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาด ข้าวมาบุญครอง กล่าวว่า ข้าวมาบุญครอง ในฐานะที่เราดำเนินธุรกิจด้านอาหารโดยตรง เรามีวิสัยทัศน์ที่อยากจะพัฒนาสิ่งใหม่ๆด้านอาหารให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค หลังจากที่ได้เห็นรายละเอียดของ Project Gourmet & Cuisine Young Chef 2022 ก็มีความสนใจมากๆ เนื่องจากเป็นเวทีสร้างสรรค์ ที่ช่วยผลักดันศักยภาพของคนรุ่นใหม่ในวงการอาหาร ในการเป็นสนามฝึกประลองฝีมือให้นิสิต นักศึกษา ประลองฝีมือ เพื่อเตรียมความพร้อก่อนเข้าสู่การเป็นเชฟมืออาชีพ และเป็นโอกาสที่น้องๆกลุ่มนี้จะได้บ่มเพาะประสบการณ์ และครีเอทสิ่งใหม่ๆ และประสบการณ์ด้านอาหาร ให้กับประเทศ เช่นเดียวกันกับข้าวมาบุญครองเอง ได้มีการพัฒนานวัตกรรมสิ่งใหม่ๆ เพื่อรักษาคุณภาพ และยกระดับคุณภาพข้าวซึ่งเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร และเป็นสินค้าขึ้นชื่อของไทยให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมวาล์ล-ล็อค ที่ข้าวมาบุญครองเป็นข้าวถุงรายแรกของโลกที่นำนวัตกรรมวาล์ว-ล็อคมาใช้ เพื่อรักษาคุณภาพ และความสดใหม่ของข้าว รวมไปถึงการพัฒนาข้าวเพื่อสุขภาพ ที่มีความอร่อยและดีต่อสุขภาพ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์เชฟ ตอบโจทย์ผู้ประกอบการร้านอาหาร และตอบโจทย์ผู้บริโภค
เชื่อว่ากิจกรรมในครั้งนี้ จะช่วยให้ดึงศักยภาพในตัวน้องๆ นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ ที่ดีขึ้นให้กับวงการอาหาร จากคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดีย รวมถึงอยากเห็นการนำวัตถุดิบที่มีอยู่ภายในประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นภาคการเกษตร ภาคการประมง ที่เรามีทรัพยากรที่มีคุณภาพมากๆ และเป็นอาชีพพื้นฐานของคนในประเทศ มารังสรรค์เป็นเมนูใหม่ๆที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกร และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอาหารและการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ทีม YOLO จากมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ทีมชนะเลิศการประกวด Gourmet & Cuisine Young Chef 2022 กล่าวว่า รายการการแข่งขันดังกล่าว มีระยะเวลาในการเตรียมตัว และครีเอทเมนูประมาณ 1 เดือนก่อนการแข่งขันในรอบตัดสิน ซึ่งมีแรงบันดาลที่อยากคงรสชาติที่มีเอกลักษณ์ความเป็นอาหารไทย และยกระดับให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เสิร์ฟทั้งหมด 3 เมนู ประกอบด้วย เมนูหลัก (Main Course) จำนวน 1 เมนู และเมนูเรียกน้ำย่อย (Appetizer) จำนวน 2 เมนู โดยเมนูหลักนำเสนอเป็นเมนู ข้าวอบไรซ์เบอร์รี่ ที่ทำคล้ายกับซาโมซ่า ด้านในจะเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่อบเครื่องเทศกระหรี่พัฟ และเมนูเรียกน้ำย่อยคือแซลมอนเจลลี่ต้มข่า และเบบี้คอร์สสลัด และเพิ่มความสดชื่นด้วยเมนูส้มซ่า ฮอลแลนเดซ ซึ่งเป็นการนำผลไม้ไทยอย่างส้มซ่ามาประยุกต์ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการเข้าประกวดทำให้มีประสบการณ์มากยิ่งขึ้น เรียนรู้ที่จะวางแผน และการทำงานตามขั้นตอน เพื่อให้ทันต่อเวลาในการประกวด และขอขอบคุณทางคณะผู้จัด และผู้สนับสนุนเป็นอย่างสูง ที่เปิดพื้นที่ให้พวกเราได้พัฒนาศักยภาพ และเป็นพื้นที่ในการก้าวสู่การเป็นเชฟมืออาชีพที่เราใฝ่ฝัน
ทีม Outstanding ผู้ชนะรางวัลพิเศษ จากการนำวัตถุดิบข้าวไรซ์เบอร์รี่ ของข้าวมาบุญครองมารังสรรค์เป็นเมนูพิเศษ กล่าวว่า คอร์สเมนูที่นำมาประกวด มีแรงบันดาลใจจากสำรับไทย ผสมผสานกลิ่นอายฟิวชั่นตะวันตก โดยคำนึงจากวัตถุดิบหลัก คือข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่มีสี กลิ่น และเนื้อสัมผัสที่ไม่เหมือนข้าวตัวอื่นเลย ซึ่งเป็นสเน่ห์เฉพาะตัว ซึ่งต้องดึงเสน่ห์ของเขาออกมาให้ได้มากที่สุด จึงเป็นที่มาของการรังสรรค์เมนูในครั้งนี้ ในรูปแบบคล้ายเมนูอารันชินี โดยด้านในเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่สัมผัสนุ่มหนึบเคล้ากลิ่นและรสชาติของคะน้าปลาเค็มกำลังดี ตรงกลางข้าวสอดใส้ชีส ที่เมื่อทานจะทำให้รสนัวขึ้น ส่วนด้านนอกนำข้าวไรซ์เบอร์รี่มาทำเป็นข้าวพอง ที่ถูกบด คลุกกับปลาแซลมอนแล้วนำไปทอดอีกครั้ง เมื่อทานรวมกันจะให้ความรู้สึกถึงข้าวคะน้าปลาเค็มที่ต่างไปจากเดิม ในรสชาติที่นัว และสนุกกับการทานมากขึ้นจากความกรุบกรอบของข้าวไรซ์เบอร์รี่พอง และเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของไทย ที่ชาวต่างชาติอยากลิ้มลอง