ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ “บ. ทางด่วนกรุงเทพ” ที่ระดับ “A” และ “A-”

ข่าวทั่วไป Wednesday April 2, 2008 09:13 —ThaiPR.net

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL) คงอยู่ที่ระดับ “A” และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันที่ระดับ “A-” เท่าเดิม ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงปริมาณการจราจรบนทางด่วนที่สม่ำเสมอ รวมทั้งกระแสเงินสดที่แน่นอน ประโยชน์จากการเป็นทางด่วนเพียงระบบเดียวที่เชื่อมต่อกับระบบทางด่วนขั้นที่ 1 หรือทางพิเศษเฉลิมมหานครซึ่งทำให้เกิดโครงข่ายถนนที่เชื่อมโยงกันทั่วกรุงเทพฯ และการมีคณะผู้บริหารที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับ นอกจากนี้ การจัดอันดับเครดิตยังคำนึงถึงโครงสร้างหนี้ในปัจจุบันของบริษัทซึ่งมีการกำหนดเวลาชำระหนี้ให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดของบริษัทตลอดอายุของตราสารด้วย อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากจำนวนหนี้สินที่อยู่ในระดับสูง ความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาลด้านระบบการขนส่งในอนาคต และการแทรกแซงของรัฐในการปรับอัตราค่าผ่านทางด่วน
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าปริมาณการจราจรบนทางด่วนจะยังคงอยู่ในระดับสูงซึ่งจะทำให้บริษัททางด่วนกรุงเทพมีกระแสเงินสดที่เพียงพอสำหรับการชำระหนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษามาตรฐานในการให้บริการและดูแลรักษาสภาพพื้นผิวการจราจรบนทางด่วนให้อยู่ในระดับที่ดีเพื่อรักษาปริมาณการจราจรให้อยู่ในระดับที่สูงต่อไป
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัททางด่วนกรุงเทพเป็นผู้ก่อสร้างและบริหารโครงการทางด่วนขั้นที่ 2 หรือโครงการทางพิเศษศรีรัชและส่วนต่อขยายต่างๆ โดยได้รับสัมปทานในระบบ Build-Transfer-Operate (BTO) ระยะเวลา 30 ปีจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ทางพิเศษศรีรัชเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 38.5 กิโลเมตร และแบ่งออกเป็น 4 ส่วนซึ่งเชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานครที่ก่อสร้างและบริหารโครงการโดย กทพ. โครงการดังกล่าวก่อให้เกิดเส้นทางเชื่อมต่อจากศูนย์กลางของกรุงเทพฯ ไปยังทิศเหนือ ตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงใต้ เป็นโครงข่ายถนนที่ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชนเมื่อการจราจรบนถนนปกติในใจกลางกรุงเทพฯ และชานเมืองมีปัญหาติดขัด นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดตั้งบริษัทย่อยคือ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) เพื่อให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและบริหารโครงการทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) หรือทางด่วนส่วน C+ ซึ่งมีระยะทางรวม 32 กิโลเมตร ภายใต้สัญญาสัมปทานแบบ BTO ระยะเวลา 30 ปีจาก กทพ. ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นใน NECL ในสัดส่วน 53.33% ของทุนจดทะเบียนของ NECL
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อผลประกอบการของบริษัททางด่วนกรุงเทพ ได้แก่ ปริมาณการจราจรบนทางด่วน อัตราค่าผ่านทาง และต้นทุนในการดำเนินงาน ซึ่งในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ปริมาณการจราจรบนทางด่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากระหว่างปี 2548-2550 โดยปริมาณการจราจรในปี 2548 เพิ่มขึ้น 2.29% ในปี 2549 เพิ่มขึ้น 3.45% และ
ในปี 2550 เพิ่มขึ้น 4.24% ซึ่งคิดเป็นปริมาณรถยนต์ 984,616 คันต่อวัน เปรียบเทียบกับปริมาณเฉลี่ยในปี 2549 ที่ 944,572 คันต่อวัน
ทริสเรทติ้งคาดว่าการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของที่อยู่อาศัยในเขตปริมณฑล และการจราจรที่ติดขัดบนถนนปกติจะยังคงส่งผลต่อความต้องการใช้ทางด่วนในอนาคต ผลประกอบการของบริษัทคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งจากปริมาณการจราจรบนทางด่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการปรับอัตราค่าผ่านทางที่แม้จะมีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และความสามารถของคณะผู้บริหารในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน
บริษัททางด่วนกรุงเทพรายงานรายได้ค่าผ่านทางในช่วงปี 2550 ที่ 7,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 276 ล้านบาท หรือ 3.94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม กำไรของบริษัทปรับลดลง 136 ล้านบาท โดยอยู่ที่ 1,407 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการจ่ายค่าธรรมเนียมการชำระคืนเงินกู้ยืมก่อนกำหนดจำนวน 222 ล้านบาทและภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้นเป็นสำคัญ ทั้งนี้ตามสัญญาเงินกู้ยืม อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนใหญ่ของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นจาก 4% ในปี 2549 มาอยู่ที่ 5% ในปี 2550 และจะเปลี่ยนจากอัตราคงที่ไปเป็นอัตราลอยตัว (ที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีหรือ MLR -2%) ในเดือนตุลาคม 2551 เพื่อบรรเทาความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยบางส่วน บริษัทได้ดำเนินการจัดหาเงินกู้ใหม่ในเดือนสิงหาคม 2550 เพื่อทดแทนเงินกู้เดิม ทั้งนี้ บริษัทได้นำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี 5 ปี และ 7 ปี มูลค่า 7,500 ล้านบาท ที่อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 4.6% มาใช้ชำระหนี้เงินกู้เดิมบางส่วน ส่งผลให้บริษัทต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการชำระคืนเงินกู้ยืมก่อนกำหนดจำนวน 222 ล้านบาทดังกล่าว การมีค่าใช้จ่ายทางการเงินที่สูงขึ้นทำให้บริษัทมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายลดลงจาก 4.85 เท่าในปี 2549 มาอยู่ที่ 3.98 เท่าในปี 2550
ภาระหนี้ของบริษัททางด่วนกรุงเทพ ณ เดือนธันวาคม 2550 อยู่ที่ 26,600 ล้านบาท ลดลง 1,783 ล้านบาทจากสิ้นปี 2549 ทั้งอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนและอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 62.39% และ 15.46% ในปี 2550 จาก 64.64% และ 14.5% ในปี 2549 ตามลำดับ แม้ว่าภาระหนี้ของบริษัทจะอยู่ในระดับค่อนข้างสูง แต่ก็บรรเทาลงจากการมีกระแสเงินสดที่ค่อนข้างแน่นอนและสม่ำเสมอจากปริมาณการจราจรบนทางด่วนที่คงตัว ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ
บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ระดับ A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BECL108A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,905 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 คงเดิมที่ระดับ A-
BECL128A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,895 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ระดับ A-
BECL148A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ระดับ A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
----------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2551 ห้ามไม่มิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ