บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ผู้นำในการให้บริการด้านการขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษที่เน้นความปลอดภัยสูง ได้รับการจัดอันดับจากทริสเรทติ้งที่ระดับ "BB+" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนสถานะทางธุรกิจที่มั่นคงในตลาดเฉพาะกลุ่ม ชูจุดแข็งจากความเชี่ยวชาญในการขนส่งสินค้าเชื้อเพลิงและสินค้าอันตราย ตลอดจนแนวโน้มรายได้ที่ดีจากสัญญาให้บริการขนส่งในปัจจุบัน โดยใน 6 เดือนแรกของปี 65 บริษัทมีรายได้ 419 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน รวมถึงการขยายกิจการสู่ "สิบล้อลีสซิ่ง" สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการในปีที่ผ่านมา โดยเดือนกันยายน 2565 มียอดจัดสินเชื่อเช่าซื้อรวมกว่า 206 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อเป็น 240 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2565 นี้ พร้อมแผนขยายธุรกิจขนส่งแบบครบวงจรในอนาคต
นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT เปิดเผยว่า การจัดอันดับเครดิตองค์กรจาก ทริสเรทติ้ง ล่าสุดได้จัดอันดับให้ KIAT ที่ระดับ "BB+" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" นับเป็นการสะท้อนสถานะทางธุรกิจที่มั่นคงของบริษัทฯ มีแนวโน้มรายได้ที่ดีจากสัญญาให้บริการขนส่งในปัจจุบัน และภาระหนี้สินที่คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า จากรายงานของ ทริสเรทติ้ง ได้อธิบายถึงสถานะธุรกิจที่มั่นคงในตลาดเฉพาะกลุ่ม โดย KIAT เป็นที่รู้จักในฐานะของผู้ให้บริการด้านการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและสินค้าอันตราย เช่น สารเคมีและก๊าซอุตสาหกรรม โดยมีจุดแข็งด้านความสามารถในการแข่งขันที่มีปัจจัยสนับสนุนความเชี่ยวชาญในการขนส่งสินค้าอันตราย ซึ่งจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวด รวมไปถึงสินทรัพย์ด้านการขนส่งขนาดใหญ่ ประกอบด้วย รถหัวลากและหางพ่วงบรรทุกกว่า 600 คัน และศูนย์ให้บริการด้านการขนส่ง 11 แห่ง
ด้านรายได้ KIAT ทริสเรทติ้ง ได้ระบุว่า KIAT มีแนวโน้มรายได้ดีจากสัญญาที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น KIAT มีรายได้ 419 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็นผลจากการได้สัญญาให้บริการขนส่งฉบับใหม่ ๆ ประกอบด้วย งานประมูลขนส่งรวมกว่า 466 ล้านบาท แบ่งเป็นขนส่ง LNG ให้กับ PTTOR 270 ล้านบาท ขนส่งก๊าซอุตสาหกรรมให้กับ บริษัท ลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 150 ล้านบาท และขนส่ง LNG ให้กับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 46 ล้านบาท คาดว่ารายได้ของบริษัทฯ จะคงเติบโตในระดับปานกลางจากสัญญาฉบับใหม่กับ ปตท. เพื่อให้บริการขนส่งก๊าซ LNG โดยภายใต้สัญญาฉบับใหญ่ที่สุด บริษัทจะเริ่มขนส่งสินค้าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565
โดยรายได้ของบริษัทน่าจะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 1,100 - 1,200 ล้านบาทในปี 2567 จากระดับประมาณ 800 - 1,000 ล้านบาทในปี 2565 โดยในปี 2564 บริษัทมีรายได้จากการขนส่งสินค้าเชื้อเพลิงและสินค้าอันตรายคิดเป็นสัดส่วน 70% ของรายได้ทั้งหมด ตามด้วยรายได้จากธุรกิจการค้าสินค้าเคมีภัณฑ์ในสัดส่วน 24% และรายได้จากบริการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งในสัดส่วน 6%
นางสาวมินตรา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากรายได้จากธุรกิจหลักของ KIAT แล้ว บริษัทฯ ยังได้พัฒนาธุรกิจใหม่ ขยายกิจการสู่ธุรกิจให้บริการสินเชื่อสำหรับรถบรรทุกมือสอง ภายใต้ชื่อแบรนด์ "สิบล้อลีสซิ่ง" ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา ด้วยการอาศัยจุดแข็งจากความเชี่ยวชาญในการประเมินราคา บำรุงรักษารถบรรทุก รวมทั้งการรู้จักตลาดรถบรรทุกขนส่งของบริษัทฯ ทั้งนี้ ในเดือนกันยายน 2565 "สิบล้อลีสซิ่ง" มีขนาดของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อราว 200 ล้านบาท โดยบริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากดอกเบี้ยตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตั้งเป้าที่จะขยายพอร์ตสินเชื่อ "สิบล้อลีสซิ่ง" ให้โตถึง 240 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2565 นี้ และมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้
KIAT ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ธุรกิจในการเพิ่มรายได้ให้เติบโตรวมกว่า 20% ในปี 2565 นี้ ด้วยการเน้นทั้งการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการบริหารบุคลากรในองค์กรให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายนอก รวมทั้งยังคงมองหาโอกาสในการเพิ่มฐานรายได้จากธุรกิจหลัก และการพัฒนาธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับ KIAT โดยมีแผนที่จะขยายธุรกิจขนส่งแบบครบวงจรในอนาคตอันใกล้นี้ และยังคงมองหาพันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนแผนในการควบรวมกิจการ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตไปพร้อม ๆ กันอย่างยั่งยืน นางสาวมินตรา กล่าวทิ้งท้าย