จอมอนิเตอร์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับสายครีเอเตอร์หรือดีไซน์เนอร์ ก่อนที่ผู้คนจะได้รับชมผลงานอันสร้างสรรค์ของพวกเขาผ่านจอต่างๆ เหล่าครีเอเตอร์ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับการเช็ค แก้ไขผลงานบนหน้าจอมอนิเตอร์จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและมั่นใจได้ว่าคุณภาพของภาพและสีคมชัดเป็นเช่นที่ดีไซน์ไว้ไม่ว่าจะรับชมจากจอแบบใดก็ตาม หน้าจอมอนิเตอร์ที่แสดงภาพและสีได้อย่างสมจริง และออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการทำงานของเหล่าครีเอเตอร์และดีไซน์เนอร์โดยเฉพาะ จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยปลดล็อกชิ้นงานมาสเตอร์พีซออกสู่สายตาสาธารณชน
บทความนี้จะพาไปเช็ค 5 ฟังก์ชันที่ต้องมีในจอมอนิเตอร์สำหรับคนทำงานสายครีเอเตอร์และดีไซน์เนอร์ เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้น
ครีเอเตอร์หลายคนใช้จอมอนิเตอร์มากกว่าหนึ่งจอในการทำงาน เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับเปรียบเทียบผลงาน หรือควบคุมเลเยอร์การทำงานในโปรแกรมตัดต่อโดยที่สายตายังโฟกัสกับชิ้นงานได้โดยไม่ต้องสลับหน้าต่างการทำงาน แต่การใช้จอมอนิเตอร์มากกว่าหนึ่งจอทำให้ผู้ใช้ต้องสลับสายตาไปมาซึ่งนอกจากจะเกิดความเมื่อยล้า อาจเกิดความคลาดเคลื่อนของสีจากการตั้งค่าแสงของจอหรือการแสดงผลของสีที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นจอมอนิเตอร์แนวตั้งที่มีอัตราส่วน 16:18 จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับงานครีเอเตอร์ เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการทำงานได้มากกว่าการใช้จอมอนิเตอร์ปกติที่มีอัตราส่วน 16:9 สองจอต่อกัน นอกจากจอมอนิเตอร์แนวตั้งจะเหมาะกับสายครีเอเตอร์ นักเทรดหุ้นมืออาชีพหรือโปรแกรมเมอร์ก็สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นในแนวตั้งของจอมอนิเตอร์นี้เพื่อดูสคริปต์หรือโค้ดที่ยาวหลายบรรทัดโดยไม่ต้อง scroll ไปมา
โดยปกติแล้วจอมอนิเตอร์ที่เหมาะกับงานของครีเอเตอร์คือ หน้าจอที่ใช้พาเนลแบบ IPS เพราะมีจุดเด่นเรื่องการแสดงภาพและสีได้อย่างสมจริง ไม่ผิดเพี้ยน ไม่ว่ามองจากมุมมองใดก็ตาม ปัจจุบันมีพาเนลที่อัปเกรดการแสดงผลได้เหนือกว่า IPS นั่นก็คือพาเนล Nano IPS ซึ่งใช้เทคโนโลยีการแสดงสีสันแบบ Quantum Dot ในระดับนาโนมิเตอร์ จึงให้ค่าแสงที่สมจริงและคมชัดกว่าจอแบบ IPS ทั่วไป นอกจากนี้ครีเอเตอร์ยังควรพิจารณาความสามารถแสดงขอบเขตสีของจอมอนิเตอร์ทั้งในรูปแบบ DCI-P3 และ sRGB รวมทั้งความละเอียดในการแสดงผลระดับ HDR 10 ขึ้นไป ซึ่งใช้ทำงานตัดต่อที่ต้องการความละเอียดขั้นสูงได้
ความเมื่อยล้าสายตาจากการมองจอเป็นเวลานาน เป็นปัญหาที่ครีเอเตอร์แทบทุกคนต้องเผชิญเพราะจำเป็นต้องโฟกัสกับความละเอียดของภาพและสีมากเป็นพิเศษ จึงควรเลือกซื้อจอมอนิเตอร์ที่มีการสะท้อนแสงต่ำ หรือมาพร้อมเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้าบนหน้าจอเพื่อป้องกันอาการเมื่อยล้าของดวงตาแต่ยังคงรักษาระดับสีแม่นยำ เพื่อการทำงานที่ยาวนานขึ้นโดยที่สีของภาพบนหน้าจอไม่บิดเบือน นอกจากนี้จอมอนิเตอร์ที่มีเซ็นเซอร์ปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติหรือสามารถปรับแสงตามสภาพแวดล้อมของห้องได้ โดยเพิ่มแสงให้สว่างขึ้นเมื่อห้องมีแสงมาก หรือลดแสงให้ต่ำลงเมื่อใช้งานในห้องที่มีแสงสว่างน้อย ยังช่วยให้อ่านข้อมูลบนหน้าจอได้สบายตายิ่งขึ้นอีกด้วย
Workstation ที่ดีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงาน และทำให้มีสมาธิอยู่กับหน้าจอได้นานขึ้น โดยปัจจุบันมีจอมอนิเตอร์รุ่นใหม่ที่อำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับครีเอเตอร์ และติดตั้งง่ายด้วยขาตั้ง Ergo แบบเสา ประหยัดพื้นที่การติดตั้งมากขึ้นโดยใช้ตัวยึดแบบ C-Clamp ที่ปรับเข้ากับความหนาของโต๊ะทุกแบบ โดยสามารถปรับยืด หด หมุนตำแหน่งให้เหมาะกับความต้องการได้ ความโดดเด่นของจอมอนิเตอร์ที่มาพร้อมขาตั้ง Ergo คือผู้ใช้สามารถเก็บสายไฟ เข้าไปในขาตั้งและอาร์มของหน้าจอเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเพิ่มพื้นที่บนโต๊ะทำงาน นอกจากนี้ จอมอนิเตอร์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงสรีรศาสตร์ ยังมีลูกเล่นในการปรับระยะมองจอได้อย่างอิสระ ทั้งระยะใกล้-ไกล สูง-ต่ำจากสายตา ปรับหมุนหน้าจอให้หันไปด้านข้างเพื่อโชว์ผลงานให้กับคนที่นั่งอยู่อีกฝั่ง หรือจะปรับเอียงหน้าจอให้อยู่ในแนวนอนก็สามารถทำได้เช่นกัน
จอมอนิเตอร์ที่อำนวยความสะดวกให้การทำงานของครีเอเตอร์ต้องเป็นจอที่รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย โดยควรรองรับช่องต่อ HDMI อย่างน้อย 2 ช่อง DisplayPort 1 ช่อง และ USB Type-C(TM) 1 ช่อง นอกจากนี้ ควรพิจารณาความสามารถในการถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และการชาร์จไฟกับแล็ปท็อปได้ทั้ง Windows และ MacBook เพื่อความราบรื่นในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทุกประเภท
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการอุปกรณ์จอมอนิเตอร์ที่สนับสนุนการทำงานของครีเอเตอร์ดัง 5 ข้อที่กล่าวมา แอลจีจึงแนะนำผลิตภัณฑ์ LG DualUp 28MQ780 จอมอนิเตอร์คอนเซปต์ใหม่ที่ปฏิวัติการทำงานของคนวงการครีเอเตอร์และดีไซน์เนอร์ ด้วยหน้าจอขนาด 27.6 นิ้ว ในสัดส่วน 16:18 เพิ่มพื้นที่การทำงานในแนวตั้ง การันตีด้านดีไซน์ที่ก้าวล้ำด้วยรางวัล CES Innovation Award 2022 ที่ไม่เพียงเสริมประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่ยังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักสรีระศาสตร์ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของแอลจีที่ใส่ใจสุขภาพของผู้ใช้งาน ตลอดจนมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ตามแนวคิด "Innovation for a Better Life"
LG DualUp 28MQ780 ราคา 29,900 บาท สามารถหาซื้อได้แล้ว ณ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของแอลจี ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lg.com/th/consumer-monitors/lg-28mq780-b หรือสอบถามข้อมูลที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2057-5757