แบรนด์คิวเฟรช (Qfresh) ภายใต้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำและผู้ผลิตอาหารทะเลระดับโลก ต่อยอดความสำเร็จกลยุทธ์ "Fandom" จัดงาน "Qfresh's Table" จับ 2 เชฟดัง "มอส - แพม" โชว์สกิลทำอาหารผ่าน 6 วัตถุดิบขั้นเทพ พร้อมการันตีความสดใหม่ เตรียมเจาะตลาดพรีเมียมไดนิ่ง มั่นใจปี 2565 ธุรกิจคิวเฟรชเติบโต 20%
นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกุ้งและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คิวเฟรช ผู้นำจำหน่ายอาหารทะเลแช่แข็งที่มีคุณภาพของไทย ภายใต้สโลแกน "ฟรีซความสดใหม่ให้ชีวิตลงตัว" ไม่ว่าใครทำก็อร่อย วางกลยุทธ์ดึงศักยภาพความพร้อมด้านวัตถุดิบ ขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่เน้นกลุ่มปรุงอาหารสำหรับรับประทานในครอบครัว (Home Cooking) ไปสู่กลุ่มพรีเมียม ไดนิ่ง (Premium dining) คือ ธุรกิจจัดเลี้ยงโรงแรม ร้านอาหารแบบโอมากาเสะ และบุฟเฟ่ต์ระดับ 4-5 ดาว เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่มีความพร้อมใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์และสุนทรียภาพในการรับประทานอาหารที่ดี มีคุณภาพ ผ่านการปรุงด้วยความประณีตมากขึ้น
นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทฯ เห็นโอกาสทางธุรกิจของตลาดพรีเมียมไดนิ่งว่ามีศักยภาพทางการเติบโตต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อแล้วยังน่าจะคุ้นเคยกับวัตถุดิบใหม่ ๆ บริษัทฯ จึงจัดงาน "Qfresh's Table" ขึ้นโดยได้ มอส - ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ พรีเซ็นเตอร์ของคิวเฟรซ และเชฟแพม - พิชญา อุทารธรรม จาก Top Chef Thailand มารังสรรค์ 6 เมนูพิเศษจากวัตถุดิบสุดพรีเมียมของคิวเฟรช เช่น กุ้งล็อบสเตอร์ (Lobster), กุ้งแดงอาร์เจนติน่า (Argentinean Shrimp Wild Caught), หอยเชลล์ฮอกไกโด (Hokkaido scallop), ไข่ปลาแซลมอน (Chum Ikura) และไข่กุ้งดำ (Black ebiko) เป็นต้น ร่วมกันครั้งแรก เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าตัวใหม่ให้ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร และสื่อมวลชน
นายธนโชติ บุญมีโชติ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานของคิวเฟรชในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2565 พบว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมราว 200 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 15% โดยผลิตภัณฑ์คิวเฟรชที่ลูกค้าให้ความสนใจสั่งซื้อในลำดับต้น ๆ คือ ปลากะพงสไลซ์ กุ้งขาว กุ้งล็อบสเตอร์ และปลาแซลมอน นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมทั้งกลุ่มอาหารพร้อมทานและแช่แข็งเพื่อบุกตลาดพรีเมียมไดนิ่งกับกลุ่มจัดเลี้ยงโรงแรม ร้านอาหารโอมากาเสะ และบุฟเฟ่ต์ คาดว่าภายในปี 2566 จะสามารถแชร์มูลค่าตลาดได้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท
"จุดแข็งและความพร้อมของ คิวเฟรช คือการเป็นผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีคุณภาพระดับสากลการันตีด้วยมาตรฐานการผลิตเดียวกัน ทั้งสินค้าภายในประเทศ และสินค้าส่งออกไปทั่วโลก เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้คนทั่วโลกและในฐานะที่เป็นบริษัทของคนไทย ไทยยูเนี่ยนและคิวเฟรชจึงอยากให้คนไทยได้บริโภคอาหารทะเลที่มีคุณภาพ และอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ" นายธนโชติ กล่าว
ปัจจุบันคิวเฟรชใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย คือ IQF (Individual Quick Freezing) และ freeze on board ในการผลิตอาหารทะเลเพื่อคงความสดใหม่และคุณค่าไว้อย่างครบถ้วน อาหารทะเลพรีเมียมได้รับการบรรจุเพื่อนำมาปรุงอาหารได้อย่างสะดวกสบายและง่ายต่อการจัดเก็บ ตอบโจทย์ตรงใจผู้บริโภคที่เน้นคุณภาพของวัตถุดิบ
สำหรับผู้ที่สนใจอยากเปิดประสบการณ์ความพรีเมียมผลิตภัณฑ์จากคิวเฟรช สามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่ www.qfreshshop.com หรือไลน์ ID: @qfresh และซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป เช่น แม็คโคร, เซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, โลตัส, บิ๊กซี และกูร์เมต์ มาร์เก็ต ทั่วประเทศ