ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง MTW กดปุ่มนำหุ้นไอพีโอ จำนวน 87 ล้านหุ้น เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai หมวดธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรมภายในปีนี้ นำเงินไปขยายธุรกิจและใช้เป็นทุนหมุนเวียน หวังดันผลประกอบการให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาย แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTW เปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งของ MTW เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน จำนวน 87,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาทและเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) หมวดธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรมภายในปีนี้ เพื่อนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ไปใช้สำหรับ(1) เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ (2) การขยายธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้า ประกอบด้วย 2.1การซื้อที่ดินโรงงาน 2.2 ชำระค่าก่อสร้างอาคารโรงงานและสำนักงาน 2.3ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับทุนจดทะเบียนของ MTW ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 อยู่ที่ 337.00 ล้านบาท และมีทุนชำระแล้ว 250.00 ล้านบาท มีสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 9/70, 9/88 หมู่ที่ 3 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดย MTW ประกอบธุรกิจ (1) ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูปและ (2) ถือหุ้นในบริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ร้อยละ 85 ส่วนสินค้าประเภทเสื้อผ้าสำเร็จรูปผลิตและจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าซึ่งจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัท ได้แก่ "Anoko" "Noble" "Over Bick'C" และ "S Sport" และตราสินค้าอื่นๆ เช่น "SuperKool" เป็นต้น ลักษณะการจำหน่ายสินค้าของบริษัทแบ่งเป็นการขายปลีก 1-5 ตัว และขายส่ง 6 ตัวขึ้นไป โดยการขายในราคาปลีกจะเป็นการขายผ่านช่องทางหน้าร้านสาขาทั้ง 2 สาขาของบริษัทเท่านั้น การขายส่งสามารถขายได้ทั้งผ่านหน้าร้านสาขาและโรงงาน
ปัจจุบันหน้าร้านสาขาของบริษัทมีทั้งหมด 2 สาขา มีทำเลที่ตั้งอยู่ในแหล่งที่เป็นแหล่งซื้อขายปลีก-ส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปหลักของประเทศไทยและเป็นแหล่งซื้อ-ขายของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท โดยมีกำลังการผลิตเสื้อสำเร็จรูปรวม 1.8 ล้านตัวต่อปี ส่วนสินค้าประเภทรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าผลิตและจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า DECO บริษัทมีตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากระจายอยู่ทั่วประเทศและมีกำลังการผลิตรวม 11,500 คันต่อปี
ด้านนายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTW เปิดเผยว่าหลังจากที่บริษัทได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต.ให้นับหนึ่งไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) โดยมี บริษัท พาย แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าหุ้นไอพีโอจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงปี 2562-2564 เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 13.89 ล้านบาท จำนวน 17.35 ล้านบาท และจำนวน 26.35 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิเติบโตเท่ากับ 8.85% ,9.92% และ 12.30% ตามลำดับ
"ในปี 2562 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปี 2561 เป็นผลจากธุรกิจรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เริ่มจำหน่ายให้กับตัวแทนและลูกค้าในพื้นที่ต่าง สำหรับกำไรสุทธิของบริษัทในปี 2563 เพิ่มขึ้นจำนวน 3.46 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.91 เป็นผลจากการเติบโตของยอดขายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องและการลดลงของมูลค่าการสั่งซื้อวัตถุดิบ ซึ่งในปี 2564 กำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นจำนวน 9 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 51.90 เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าตามความต้องการมากขึ้นของผู้ใช้งาน" นายกฤตเมธ กล่าว
ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการพัฒนาเทคโนโลยี รวมทั้งปรับเปลี่ยนทั้งเครื่องจักรและวิธีการให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความเป็นระบบ รวมถึงมีการตรวจสอบคุณภาพของสินค้า เพื่อให้ได้สินค้าที่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่มองเห็นว่าพลังงานทางเลือกจะช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ในอนาคต ในเดือนมกราคม 2561 จึงได้จัดตั้งบริษัทย่อยในนาม บริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 65.00 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของบริษัทย่อย ส่วนที่เหลือถือโดยกลุ่มชาวไต้หวัน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2565 บริษัทฯ ได้ซื้อหุ้นบางส่วนจากผู้ถือหุ้นชาวไต้หวัน ทำให้บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 85.00 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของบริษัทย่อย การนำบริษัทฯ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้ ถือเป็นอีกย่างก้าวที่สำคัญของ MTW ที่สามารถพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีศักยภาพพร้อมในการเข้าระดมทุนเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต