กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
เพราะแผลเป็น คือเรื่องจำเป็นที่ต้องดูแล ...ผลิตภัณฑ์เจดลดรอยแผลเป็น “ฮีรูสการ์” น้องใหม่จากฮีรูดอยด์ จึงจัดงาน “ไขปริศนากับปัญหาแผลเป็น” เพื่อให้ความรู้และวิธีดูแลผิวที่มีปัญหาแผลเป็นอย่างถูกต้องโดยแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกิจกรรมดูแลผิวและวิธีดูแลสุขภาพตามธาตุเจ้าเรือน ตามศาสตร์แห่งความงามแพทย์แผนไทย จากผู้เชี่ยวชาญกระทรวงสาธารณสุข ณ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
ภายในงานได้รับเกียรติจาก นพ.ฐานิศ พลานุเวช อายุรแพทย์สาขาโรคผิวหนัง โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ได้ให้ความรู้เรื่องผิวพรรณและการดูแลแผลเป็นว่า “ปัญหาเรื่องผิวพรรณส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ใบหน้าหมองคล้ำ มักเกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือ จากปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด ซึ่งเป็นตัวทำร้ายผิวให้เกิดรอยย่น สีผิวคล้ำได้เร็วกว่าปกติ และปัจจัยภายใน เช่น ความเครียด , กรรมพันธุ์ , ฮอร์โมน ซึ่งในเพศหญิงจะเกิดฝ้าหรือกระได้มากกว่าในเพศชาย ส่วนเรื่องแผลเป็นนั้นเป็นปัญหาที่พบบ่อย มีหลายลักษณะ ทั้งรอยนูน เกิดจากร่างกายสร้างเนื้อเยื่อเกินกว่าปกติ เช่น จากการฉีดวัคซีน , รอยดำ เช่น รอยจากสิวอักเสบหรือการบีบและแกะสิว และรอยบุ๋ม ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการรักษาสามารถทำได้หลายรูปแบบ ที่ง่ายและประหยัดที่สุดคือ การทายาหรือใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยแผลเป็นที่มีหลากหลายประเภท เช่น ประเภทที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ , AHA , อาบูติน หรือ สมุนไพรต่างๆ ที่มีฤทธิ์ช่วยในการลดรอยแผลเป็น เช่น ชะเอมเทศ เป็นต้น ในกรณีแผลเป็นนูน ส่วนผสมจาก MPS หรือ มิวโคโพลีแซคคาไรด์ จะช่วยให้เกิดกลไกมีออกซิเจนไหลเวียนในบริเวณแผลเป็น ช่วยให้แผลเป็นที่แข็งนุ่มขึ้น กระตุ้นการสลายพังผืดทำให้แผลเป็นยุบตัวลงได้ดี , ส่วนแผลเป็นประเภทรอยดำ ควรใช้ที่เป็นลักษณะ Whitening อ่อนๆ ที่มีสาร อาบูติน ซึ่งสกัดได้จากต้นเบอรี่ , มัลเบอรี่ , รากชะเอม หรือวิตามินเอและซี เป็นต้น นอกจากการทาภายนอกแล้ว เทคโนโลยีใหม่ยังช่วยแก้ปัญหาแผลเป็นที่รุนแรงได้ เช่น การใช้เลเซอร์ , การใช้กรดผลไม้ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น , การทำไอออนโต และโฟโน เพื่อผลักตัวยาให้ลงลึกถึงผิวชั้นใน หรือการใช้ Filler เพื่อเติมเต็มส่วนที่เป็นร่องหรือรอยบุ๋ม ซึ่งต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ นอกจากนั้นควรปฏิบัติตัวเพื่อรักษาสุขภาพผิวให้ดีด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มี Anti Oxidant อย่างพืชผักที่มีสีเขียว แดง เหลือง ชาเขียว สารโอเมก้าในปลาต่างๆ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น เกรปฟรุต ส้ม และการพักผ่อนที่เพียงพอ หลีกเลี่ยงแสงแดด และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวและปัญหาของผิว”
ต่อจากนั้น ผู้ร่วมงานยังได้ศึกษาศาสตร์แพทย์แผนไทย ด้วยการดูแลผิวตามธาตุเจ้าเรือนจาก คุณปรรพกาล เกษมพรรณราย ผู้เชี่ยวชาญวิชาแพทย์แผนโบราณ สาขาเภสัชกรรม สมาคมแพทย์แผนโบราณ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมให้ความรู้ว่า “ตามทฤษฎีแพทย์แผนไทย ธาตุเจ้าเรือน คือ องค์ประกอบ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนปฏิสนธิ แต่ละคนจะมีธาตุใดธาตุหนึ่งที่เด่นชัดกว่าธาตุอื่น ได้แก่ ธาตุดิน คือผู้ที่เกิดในเดือน ต.ค.-พ.ย.-ธ.ค. โดยรวมแล้วสุขภาพแข็งแรง รับประทานได้ทุกอย่าง ระวังแต่เรื่องท้องผูก ส่วนสุขภาพผิวพรรณดี ฟื้นตัวได้เร็ว ดูแลง่าย , ธาตุน้ำ คือผู้ที่เกิดในเดือน ก.ค.-ส.ค.-ก.ย. ด้านสุขภาพต้องระวังอาการหวัด คัดจมูก อากาศหนาวจะเจ็บป่วยได้ง่าย ส่วนสุขภาพผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล แต่จะเกิดฝีหรือหนองได้ง่าย เป็นสิวแล้วหายยาก ให้รับประทานอาหารที่มีรสขม และเปรี้ยวเพื่อบำรุงผิวพรรณ , ธาตุลม คือผู้ที่เกิดในเดือน เม.ย.-พ.ค-มิ.ย. ด้านสุขภาพมักเวียนหัว หน้ามืดบ่อยๆ เจ็บป่วยง่ายในช่วงฤดูฝน ผิวพรรณหยาบแห้ง เป็นแผลแล้วมักเกิดแผลเป็น ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เช่น เปรี้ยวจัด เค็มจัด เน้นพวกอาหารเผ็ดร้อน เช่น ขิง ข่า พริกไทย เป็นต้น และ ธาตุไฟ คือผู้ที่เกิดในเดือน ม.ค.-ก.พ.-มี.ค. ด้านสุขภาพเป็นไข้ตัวร้อนได้ง่าย ส่วนผิวพรรณแห้ง เป็นขุย เป็นแผลเป็นง่าย ใช้เวลารักษานาน หลีกเลี่ยงแสงแดดเพราะจะเกิดฝ้าได้ง่าย ควรรับประทานอาหารรสขม จืดและเย็น เป็นต้น ซึ่งแต่ละธาตุมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกัน จึงต้องดูแลสุขภาพและผิวพรรณที่แตกต่างกันไป ทั้งด้านอาหารการกินและการปฏิบัติตัวเพื่อการมีสุขภาพดีได้ง่ายๆ ตามแบบของไทย”
นอกจากนี้ ภายในงานผู้ร่วมงานยังได้รับความรู้เรื่องสมุนไพรไทยและสูตรการดูแลผิวให้เนียนใส พร้อมรับรางวัลผลิตภัณฑ์ ฮีรูสการ์ เพื่อไปดูแลผิวพรรณให้เนียนใสไร้ริ้วรอยแผลเป็น ก่อนลาจากกันด้วยความรู้และความประทับใจ
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300 , 0-2434-8547
คุณสุจินดา , คุณแสงนภา , คุณชินนารี