กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือ ธ.กรุงไทยและบริษัทในเครือ รุกแผนกระตุ้นการลงทุนในกองทุน RMF — LTF ให้พนักงานประจำทั้งธ.กรุงไทยและบริษัทในเครือ พร้อมร่วมกับบลจ.กรุงไทย จัดโครงการ Wealth+ (Wealth Plus) ตัดบัญชีเงินเดือนเพื่อลงทุน LTF และ RMF เป็นประจำทุกเดือนขั้นต่ำเพียง 500 บาท ตั้งเป้าจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกว่าแสนราย เน้นเดินสายให้ข้อมูลพนักงานและมุ่งขยายผลยังสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและฝ่ายบุคคลขององค์กรต่าง ๆ ที่เครือธ.กรุงไทยดูแล คาดจะมีผู้สนใจร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 5,000 ราย ประมาณการเม็ดเงินลงทุนผ่านโครงการประมาณ 500 ลบ.
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แผนการเพิ่มจำนวนผู้ลงทุนบุคคลผ่านกองทุนรวม ซึ่งในปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้ถือหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นอีก 75,000 รายนั้น หนึ่งในแผนงานดังกล่าวคือการส่งเสริมให้มีการลงทุนใน LTF และ RMF อย่างสม่ำเสมอ โดยจะมีการทำงานร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนเพื่อขยายบริการที่สะดวก สบาย และสามารถเข้าถึงประชาชนทั่วไปได้มากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ลงทุนในกองทุนรวมให้มากขึ้น
นางภัทรียากล่าวว่า ขณะนี้ บลจ.กรุงไทยได้ให้ความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะนำเสนอบริการ Wealth+ (Wealth Plus) ซึ่งจะให้บริการตัดบัญชีเงินเดือนของพนักงานในกลุ่มธนาคารกรุงไทยเพื่อลงทุนใน LTF และ RMF เป็นประจำทุกเดือน รวมทั้งการขอรับคำแนะนำเพิ่มเติมจากบลจ.กรุงไทยได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดสัมมนาให้ความรู้แก่พนักงานที่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขององค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 500 คนขึ้นไป โดยจะทำงานร่วมกับผู้บริหารของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคลขององค์กรนั้น ๆ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลตอบแทนจากการลงทุนใน LTF และ RMF รวมทั้ง การกระตุ้นให้มีการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเต็มที่ หลังรัฐบาลได้เพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษี เมื่อลงทุนใน LTF และ RMF ได้ถึงประเภทละ 500,000 บาทด้วย โครงการทั้งหมดจะสามารถเข้าถึงพนักงานองค์กรมากกว่าหนึ่งแสนคน
“เชื่อว่าบริการใหม่นี้จะเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะทำให้เกิดบริการใหม่ ๆ จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่จะมีส่วนส่งเสริมให้ประชาชนหันมาให้ความสนใจกับการบริหารเงินและการต่อยอดเงินออมด้วยการลงทุนในกองทุนรวมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีที่จะทำงานร่วมกับบลจ.หรือสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่จะนำเสนอบริการที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนของพนักงานในรูปแบบที่ใกล้เคียงกัน” นางภัทรียากล่าว
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารกรุงไทย และบริษัทในเครือ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ริเริ่มโครงการ Wealth+ (Wealth Plus) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการออมของพนักงาน และเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินในอนาคต ผ่านการลงทุนใน RMF และ LTF การให้บริการที่สะดวกสบายนี้ สอดคล้องกับนโยบายของธนาคารในการเป็น Convenience Bank ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลากหลายรูปแบบ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบครัน”
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ Wealth+ จะให้บริการตัดบัญชีเงินเดือนพนักงานที่มีบัญชีกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตามความสมัครใจของพนักงาน โดยมีอัตราขั้นต่ำเพียงเดือนละ 500 บาทเท่านั้น โดยในระยะแรกจะให้บริการแก่พนักงานของบริษัทในเครือธนาคารกรุงไทย และองค์กรที่บลจ.กรุงไทยเป็นผู้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจำนวน 14 องค์กร ซึ่งมีพนักงานรวมประมาณ 112,000 ราย ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากพนักงานเข้าร่วมโครงการประมาณ 5,000 ราย โดยคาดว่าจะมีเงินลงทุนผ่านโครงการประมาณ 500 ล้านบาท
“บริษัทจะทำงานกับฝ่ายทรัพยากรบุคคลของแต่ละองค์กรในการให้ความรู้แก่พนักงานร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมทั้งให้คำแนะนำด้านการวางแผนทางการเงิน โดยในอนาคตมีแผนที่จะขยายการให้บริการไปยังกลุ่มลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพขององค์กรอื่น ๆ ที่ยังอยู่ระหว่างการตอบรับการเข้าร่วมโครงการ และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯที่สนใจอีกด้วย” นายสมชัยกล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทย และบริษัทในเครือ ในการเพิ่มช่องทางให้ผู้ลงทุนเข้าถึงการลงทุนในตลาดทุนมากขึ้น ผ่านสำนักงานสาขาออนไลน์ (Cyber Branch) เพื่อให้บริการด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ภายในธนาคารกรุงไทยจำนวน 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / ศรินทร์ลักษณ์ จิตกะวงศ์ โทร. 0-2229 — 2037/ ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797