อาหารเสริมที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเอง ด้วยเทรนด์อาหารเสริมเปลี่ยนไปทุกปี ความต้องการใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้นในทุกปี ที่สำคัญคือความต้องการอาหารเสริมในยุคนี้ ยังเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย จึงไม่น่าแปลกใจ หากผู้ประกอบการยุคนี้คิดอยากจะมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเป็นของตนเอง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ดูจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ
คำถามก็คือ ถ้าเราอยากจะมีแบรนด์อาหารเสริมเป็นของตนเอง เส้นทางการปลุกปั้นแบรนด์อาหารเสริม จากจุดเริ่มต้นไปสู่ความสำเร็จจะเป็นอย่างไร ? ผู้ที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดคือ คุณพีรภพ หาญไกรพงศ์ ประธานกรรมการบริษัท เคนยากุ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Kenyaku ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจ OEM รับผลิตยาและอาหารเสริม มากว่า 40 ปี
คุณพีรภพ เล่าว่า เทรนด์อาหารเสริมในอดีต มักจะเป็นอาหารเสริมที่เน้นสรรพคุณเดียวที่เรียกว่า เม็ดเดียว จะมีสารสกัดที่ให้สรรพคุณ 1 อย่าง แต่มาในยุคนี้ ความต้องการเฉพาะทางของผู้บริโภคเปิดกว้างมากขึ้น ทำให้สารสกัดของอาหารเสริมต้องลงลึก เพื่อตอบโจทย์เฉพาะจุดที่มากขึ้น เช่น สารสกัดคอลลาเจนเพื่อบำรุงข้อสำหรับผู้สูงวัย หรือเพื่อบำรุงผิวสำหรับคนวัยหนุ่มสาว นอกจากนี้ รูปแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเอง ยังต้องมีความหลากหลายมากขึ้นจากเดิมที่นิยมในรูปแบบเม็ด แคปซูล ปัจจุบันจะเห็นทางเลือกรูปแบบอื่น ๆ เช่น รูปแบบผงชงดื่ม เม็ดฟู่ ด้วยเทรนด์ตลาดเปลี่ยนไปเราต้องตามให้ทัน และอีกปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ผู้ประกอบการให้ความมั่นใจ คือ มาตรฐานของโรงงานผลิต
ด้วยพื้นฐานธุรกิจเดิมของ Kenyaku เป็นโรงงานผลิตยาแผนปัจจุบันมาก่อน ได้ถอดแบบด้านคุณภาพมาสร้างโรงงานผลิตอาหารเสริม ทำให้โรงงานผลิตของ Kenyaku มีส่วนเพิ่มเติมที่พิเศษไปจากโรงงานผลิตทั่ว ๆ ไป เช่น พื้นที่รองรับการวิเคราะห์และวิจัยต่าง ๆ การหาค่าการละลายเม็ดยา หรือโซนผลิตที่เป็นห้องปลอดเชื้อ (Cleanroom) รวมถึงกระบวนการผลิต การจัดการด้านคุณภาพ ประกอบกับการมีองค์ความรู้และกระบวนการด้านการผลิตยาจากญี่ปุ่น เป็นจุดแข็งของธุรกิจสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการ นอกจากนี้ Kenyaku ไม่เคยหยุด ค้นหานวัตกรรม วัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทุกมุมโลก โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา R&D หรือ QC ให้ความสำคัญ และการวิจัย พัฒนาสูตรตำรับที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน
แล้ว ความเสี่ยง ของการทำแบรนด์อาหารเสริม คืออะไร ?
คุณพีรภพ มองว่า ความเสี่ยงที่น่ากลัวที่สุดคือ การไม่รู้จักตลาดและเทรนด์อย่างแท้จริง ส่งผลให้แม้จะมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดี ๆ อยู่ในมือ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ จากจุดนี้ที่ได้สร้างอีกหนึ่งจุดแข็งให้กับ Kenyaku ว่า "เราไม่ใช่แค่ผู้ผลิต แต่เราจะ พาร์ทเนอร์ ให้แก่ลูกค้า พร้อมสนับสนุนการขายสินค้าให้ได้เป้าหมาย" โดยปกติแล้ว กระบวนการทำงาน OEM จะเริ่มต้นจากการรับโจทย์จากลูกค้า พัฒนาสูตรตำรับ ทำการผลิตสินค้า จบลงด้วยการส่งมอบสินค้า แต่ Kenyaku ยืนอยู่ในจุดที่เป็น Partnership กับลูกค้า ดังนั้น นอกเหนือจากการผลิต ยังช่วยวางแผนด้านการตลาด หาจุดขาย-เอกลักษณ์สินค้า แนวทางด้านวิชาการ รวมถึงจัดการด้านรางวัลประกวดของสินค้า พร้อมอำนวยความสะดวกการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ซึ่งความครบวงจรเหล่านี้ได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าในประเทศ ต่างประเทศ ทั้งบริษัทขนาดใหญ่ โรงพยาบาลชั้นนำ คลีนิค และ SME มาแล้ว
แต่สิ่งที่หลายคนกังวลอีกอย่างก็คือ กระแสอาหารเสริมคลื่นลูกใหม่ จะมาทับกลบคลื่นลูกเก่าหรือไม่ ?
คุณพีรภพได้บอกต่อว่า การพัฒนาสูตรอาหารเสริมขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ซึ่งสามารถพัฒนาสูตรใหม่ ๆ ตามเทรนด์ได้ตลอดเวลา เช่น สินค้าแบรนด์เดิม ต้องการเพิ่มเติมสรรพคุณมากขึ้น หรือ ต้องการสร้างแบรนด์ใหม่ก็ได้เช่นกัน ให้เป็นสินค้ารุ่นใหม่ของปีนั้น ๆ เพื่อรักษาฐานลูกค้าจากแบรนด์เดิม ไปพร้อม ๆ กับการสร้างฐานลูกค้าให้แบรนด์ใหม่ในเวลาเดียวกัน ซึ่งหากใครจะมองว่า ธุรกิจอาหารเสริม เป็นกระแสแฟชั่นที่เกิดขึ้นแล้วหายไป อาจจะไม่จริงเสียทีเดียว.. เพราะขึ้นอยู่กับประเภทอาหารเสริมนั้น ๆ อย่างเช่น อาหารเสริมบำรุงร่างกาย (Total Health) มี Product Life Cycle นาน ได้พิสูจน์มาแล้ว สินค้าที่ดี มีคุณภาพ ผลลัพธ์ที่ชัดเจน สามารถสร้างความยั่งยืน มาถึงปัจจุบันนี้กว่า 13 ปี หรือหากเป็นสินค้ากลุ่มตามเทรนด์ ในตลาด อายุเฉลี่ย 2-3 ปี
คุณพีรภพ ยังฝากทิ้งท้ายด้วยว่า หากใครต้องการจะมีแบรนด์อาหารเสริมเป็นของตนเองสิ่งสำคัญที่สุดคือ ความเชื่อมั่นในสินค้า, การยืดหยุ่นปรับตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และต้องมองหาโรงงานผลิตที่มั่นใจได้ว่าจะเป็น Partnership ที่ดีในระยะยาว