ไทยวา เดินหน้าทำผลประกอบการโดดเด่นช่วงเข้าสู่ปลายปี 65 ด้วยกำไรสุทธิและการเติบโตที่ก้าวกระโดด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 9, 2022 09:56 —ThaiPR.net

ไทยวา เดินหน้าทำผลประกอบการโดดเด่นช่วงเข้าสู่ปลายปี 65  ด้วยกำไรสุทธิและการเติบโตที่ก้าวกระโดด

ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ฉลองวาระครบรอบ 75 ปี เผยผลประกอบการยอดขายทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น 18% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 7% TWPC เป็นบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการดำเนินงานใน 5 ประเทศ โดยมีโรงงานและสำนักงานทั้งหมด 15 แห่ง มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับผู้บริโภค ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แป้งและส่วนผสมในการประกอบอาหาร ผลิตภัณฑ์วุ้นเส้น เส้นก๋วยเตี๋ยว และล่าสุดคือผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกจากแป้งมันสำปะหลังภายใต้แบรนด์ ROSECO ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มียอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยผลประกอบการที่ดีที่สุดมาจากธุรกิจอาหารซึ่งเป็นธุรกิจหลักในประเทศไทยและเวียดนามที่มีการเติบโตเป็นตัวเลขถึงสองหลัก

ท่ามกลางความท้าทายระดับโลกของการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ยังคงทำผลประกอบการที่แข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์การเสริมความแข็งแกร่งในด้านการขายและการตลาดระดับโลก ห่วงโซ่อุปทาน และความสามารถด้านดิจิทัล ปีนี้เป็นปีแรกที่ TWPC สามารถคว้ารางวัลองค์กรดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2565 (HR Asia Best Company to Work for in Asia 2022) และรางวัล Rising Star จากความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงการขับเคลื่อนทางด้านความยั่งยืน ตลอดจนการดำเนินงานที่เป็นเลิศทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การออกแบบและพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดโลกที่มีความแข็งแกร่งและสมดุล คือกลยุทธ์หลักของบริษัทนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดเมื่อเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา ในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรจาก "ฟาร์มสู่ผู้บริโภค" ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่รายในภูมิภาค เราได้ทุ่มเทเวลาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่คุณค่าทั้งระบบของบริษัท ให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ และพัฒนาความสามารถของทีมขายให้พร้อมสำหรับตลาดโลก และเรายังคงสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในช่วงหลังยุคโควิดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 เรายังคงมุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และยังพร้อมก้าวเข้าสู่ตลาดที่มีผู้บริโภคขนาดใหญ่อย่างอินเดีย อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา บริษัทฯ เล็งเห็นแนวโน้มในระดับโลกที่ลูกค้าต้องการมีโซลูชันด้านอาหาร ที่มีปัจจัยด้านความสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ความคุ้มค่าด้านราคา และความสะดวกต่อผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ ทางไทยวาได้ตั้งเป้าหมายที่จะได้ยกระดับการส่งมอบโซลูชันด้านอาหาร ให้ดียิ่งขึ้นด้วยความรวดเร็วและขยายวงให้ครอบคลุมมากขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า กลยุทธ์ส่วนใหญ่ของเรามุ่งเน้นไปที่การสร้างสมดุลระหว่างกลุ่มลูกค้า B2C และ B2B ทั้งในประเทศไทย และประเทศหลัก ที่ครอบคลุมถึงจีน อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย สหรัฐอเมริกา ความต้องการที่มีต่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของไทยวาซึ่งได้แก่อาหารและผลิตภัณฑ์ส่วนประกอบอาหารนั้นเติบโตยิ่งกว่าช่วงก่อนโควิด-19 อย่างมาก เราจึงต้องมุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินงานและเตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวเข้าสู่ปี 2566 ตลอดจนวางกลยุทธ์สำหรับสินค้าด้านอาหารและนวัตกรรมต่อไป

สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตจนถึงปี 2568 ไทยวาวางแผนที่จะสร้างการเติบโตทางด้านยอดขายอย่างมากในทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยขยายทั้งฐานการผลิต ช่องทางการจัดจำหน่าย และการทำการตลาด จาก 15 แห่งเป็น 20 แห่ง พร้อมทั้งเดินหน้าเสริมความแข่งแกร่งทางด้านความสามารถในการดำเนินงานทั้งในประเทศจีน เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย บริษัทฯ สามารถทำกำไรและรายได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ตั้งแต่ปี 2560 รวมทั้งยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ กว่า 20 รายการในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดอาหาร แป้ง วัตถุดิบออร์แกนิค และวัตถุดิบที่คัดสรรมาจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืนทั่วโลก นอกจากนี้ เนื่องในโอกาสการจัดงานมหกรรมสินค้าอาหารที่ใหญ่ที่สุดในกรุงจาการ์ตา เมื่อเดือนกันยายน 2565 บริษัทฯ ยังได้เปิดตัว "ไทยวา อินโดนีเซีย" ซึ่งเป็น Flagship office ตั้งอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซียอีกด้วย

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 นาย โฮ เรน ฮวา พร้อมด้วยผู้บริหารชั้นนำในประเทศไทยจากหลากหลายธุรกิจได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการประชุม UN Global Compact Thailand (GCNT) ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาล องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และภาครัฐร่วมเป็นสักขีพยาน และเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2565 ไทยวายังได้เข้าร่วมการประชุม Growth Asia Summit ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเป็นการประชุมผู้นำทางความคิดและซีอีโอในภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การทำฟาร์มแบบยั่งยืน ตลอดจนความต้องการด้านอาหารของผู้บริโภค

"ธุรกิจเกษตรและอาหารเป็นธุรกิจระดับโลก ความท้าทายเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหารและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้เรามีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องบริการลูกค้าทั่วโลกให้ได้เร็วขึ้นและดีขึ้น ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายและการทำตลาดทั่วโลกของเราเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงขึ้นมาก ปัจจุบันเราให้บริการลูกค้าในประเทศต่างๆ รวมถึงแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และเรายังเป็นหนึ่งในบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากพืชล้วนๆ จากฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภค ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าทั่วโลก และในฐานะบริษัทชั้นนำด้านเกษตรและอาหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจะสร้างความแข็งแกร่งให้เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง" นายโฮ กล่าวเสริม

ยิ่งไปกว่านั้น ไทยวาจะรุกการลงทุนในด้านพลังงานทดแทนอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายในการจัดหาพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 15 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นระยะยาวในการลดปริมาณคาร์บอนให้เป็นศูนย์ และเป็นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพในฐานะองค์กรหลัก ในช่วงต้นปี 2565 บริษัทฯ ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ในด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ภายใต้แบรนด์ ROSECO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกที่ผลิตจากแป้งมันสำปะหลังครั้งแรกในโลก และเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาพลาสติกที่เกิดขึ้นทั่วโลกและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ