โลตัส (Lotus's) หนึ่งในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกชั้นนำรายใหญ่ที่สุดของไทยและมาเลเซีย ได้ย้ายระบบงานของฝ่ายการเงินและการจัดซื้อเข้าสู่ Oracle Fusion Cloud Enterprise Resource Planning (ERP) อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสานต่อแผนงานส่งเสริมศักยภาพความยืดหยุ่นทางธุรกิจ หลังจากที่โลตัสได้ย้ายภาระงานบางส่วนเข้าสู่ Oracle Cloud Infrastructure (OCI) และ Oracle Exadata Cloud@Customer ก่อนหน้านี้ ซึ่งให้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก การร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นการยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างโลตัสกับออราเคิล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน ตลอดจนเพิ่มระดับการควบคุมและส่งเสริมธรรมาภิบาลในขั้นตอนการดำเนินธุรกิจของโลตัสให้ดียิ่งขึ้น
เพื่อให้การบริหารงานร้านค้าปลีกมากกว่า 2,660 สาขาทั้งในไทยและมาเลเซีย โลตัสใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันและยกระดับบริการลูกค้า ในฐานะผู้นำ New SMART Retail โลตัสมีแผนงานในการเดินหน้าขยายสาขา next-generation ที่ทำหน้าที่เป็น fulfillment center สำหรับธุรกิจออนไลน์ นอกเหนือจากการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แปลกใหม่ของกลุ่มลูกค้ายุคดิจิทัล เพื่อให้บริษัทฯ สามารถบรรลุผลตามแผนสร้างความเติบโตและรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดค้าปลีก โลตัสได้ยกระดับการดำเนินงานของฝ่ายการเงินและการจัดซื้อให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
โลตัสได้เลือก Oracle Cloud ERP เป็นแอปพลิเคชันหลักเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของฝ่ายการเงินและการจัดซื้อ แทนที่แอปพลิเคชันบริหารการเงินแบบเดิม และด้วยความสำเร็จจากการใช้ Oracle Cloud ERP จึงทำให้โลตัสสามารถปรับเปลี่ยนขั้นตอนการดำเนินธุรกิจให้มีความทันสมัยและปิดรายงานผลการดำเนินงานได้ในเวลาเพียง 3 วัน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ ส่งเสริมธรรมาภิบาลและการควบคุม รวมถึงยกระดับการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินได้แบบเรียลไทม์ ผ่านขีดความสามารถในการรายงานผลรูปแบบใหม่ของระบบ
"ด้วยความมุ่งมั่นของเราในการเป็นผู้นำNew SMART Retail ในยุคซึ่งเทคโนโลยีช่วยเชื่อมโยงธุรกิจออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันเพื่อมอบประสบการณ์การจับจ่ายที่ง่ายดายและเพลิดเพลินแก่ลูกค้า ด้วยเหตุนี้ โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของเราจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งในการมอบบริการแก่ลูกค้าและการทำงานเบื้องหลังในส่วนของสำนักงาน ต้องขอบคุณระบบ Oracle Cloud ERP ที่ช่วยให้การทำงานของฝ่ายการเงินและฝ่ายจัดซื้อของเรามีความทันสมัยและทำงานได้แบบอัตโนมัติ พร้อมยกระดับการควบคุมซึ่งส่งผลถึงการเพิ่มความแม่นยำของข้อมูลและประสิทธิภาพในขั้นตอนการทำงานเมื่อเราต้องปรับสเกลงานอย่างต่อเนื่อง" นายฐาปัตย์ สุนทรนพคุณ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ - การเงิน ศูนย์การค้า ทรัพย์สิน และบุคลากร โลตัส กล่าว
Oracle Cloud ERP ช่วยให้โลตัสสามารถบริหารขั้นตอนการทำงานของฝ่ายการเงินและฝ่ายจัดซื้อผ่านระบบออนไลน์ มอบประสบการณ์การทำงานที่ดีกว่าและทำได้ในทุกที่ทุกเวลา รวมถึงการจัดเตรียมรายงานแบบออนไลน์และขั้นตอนการอนุมัติงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการทำเอกสารที่ต้องอาศัยแรงงานคนและส่งเสริมสถานะผู้นำของบริษัทด้วยการใช้ระบบอัจฉริยะกับฝ่ายการเงินและจัดซื้อสำหรับธุรกิจค้าปลีกของบริษัท นอกจากนี้ ฟังก์ชั่นการรายงานผลอัตโนมัติรูปแบบใหม่ยังช่วยประหยัดเวลาในการปิดรายงานผลการดำเนินงาน ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถของทีมการเงินของโลตัสได้อย่างมีนัยสำคัญ
"การปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทำงานเป็นระบบดิจิทัลถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจค้าปลีกทุกวันนี้ ในยุคที่กระแสอีคอมเมิร์ซกำลังเฟื่องฟูสุดขีดและห่วงโซ่อุปทานทวีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น" นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย กล่าว "Oracle Cloud ERP ช่วยให้โลตัสสามารถเดินหน้าในการใช้นวัตกรรมและระบบอัตโนมัติขั้นสูงในการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยปลดล็อกโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และเข้าถึงมูลค่าที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น"
Oracle Cloud ERP และ Oracle Cloud HCM เป็นระบบที่ได้รับความไว้วางใจและถูกเลือกใช้โดยองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลกมากกว่า 11,000 แห่ง โดย Oracle Cloud ERP นำเสนอชุดฟีเจอร์ด้านการเงินและการดำเนินงานสำหรับวิสาหกิจมากมาย อาทิ financials, accounting hub, procurement, project management, enterprise performance management, risk management, subscription management, และ supply chain management & manufacturing ส่วนชุดระบบ Oracle Fusion Cloud Applications Suite คือแพลตฟอร์มที่สามารถอัปเดตระบบได้ด้วยตัวเองทุก 90 วัน ทำให้ลูกค้าได้ใช้งานเทคโนโลยีที่ทันสมัยและใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ เพื่อมอบขีดความสามารถแก่องค์กรในการสร้างระบบงาน พัฒนานวัตกรรม การทำงานแบบอัตโนมัติ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ และไม่พลาดโอกาสทางธุรกิจที่จำเป็นสำหรับองค์กร
โครงการติดตั้งใช้งานระบบในครั้งนี้ดำเนินการโดย Accenture สมาชิกที่ทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนานในเครือข่าย Oracle PartnerNetwork (OPN) ของออราเคิล "เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถตอบสนองความต้องการที่กำลังเปลี่ยนแปลงของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ตลอดจนสามารถนำเสนอบริการและประสบการณ์ได้ตามที่ลูกค้าคาดหวัง" นางปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าว "ด้วยเทคโนโลยีและประสบการณ์ในธุรกิจค้าปลีกของเอคเซนเชอร์ เราจึงช่วยให้โลตัสสามารถขยายขอบเขตการใช้งานระบบของออราเคิลเพื่อการขับเคลื่อนมูลค่า ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น ยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน และทำให้ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจเกิดประสิทธิผลสูงสุด รองรับการเดินหน้าสู่เฟสต่อไปของการสร้างสรรค์ความเติบโตเชิงกลยุทธ์ของบริษัท"