"บมจ.ทีวีดี โฮลดิ้งส์" หรือ TVDH ปักธงเป้าหมายทำผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาส 4/65 ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ Super Holdings Company จัดโครงสร้างองค์กรและรุกขยายธุรกิจใหม่ตามโรดแมปเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมมุ่งบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ดันผลงานไตรมาส 3/2565 มีผลขาดทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เดินหน้าลงทุนตั้งบริษัทใหม่ลุยธุรกิจด้านบันเทิงและอีเวนต์ รวมถึงที่ปรึกษาธุรกิจอาหาร
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวีดี โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVDH เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินว่าผลการดำเนินงานได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และวางเป้าหมายไตรมาส 4/2565 จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากการขับเคลื่อนธุรกิจตามแผนยุทธศาสตร์ Super Holdings Company ที่วางโรดแมปมุ่งขยายการลงทุนธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาได้ปรับลดต้นทุนมีเดียหรือค่าเช่าเวลาออกอากาศทางช่องทีวีดิจิทัลและทีวีดาวเทียมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีต้นทุนการดำเนินธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งลดลง และมุ่งเพิ่มยอดขายจากช่องทางออนไลน์ช้อปปิ้ง ขณะที่ไตรมาส 4/24565 วางแผนลดต้นทุนสินค้าที่จำหน่ายอยู่ที่ระดับ 48 - 49% และเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยที่จัดขึ้นใหม่
ทั้งนี้ บริษัทฯ เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ในช่วงไตรมาส 3/2565 เช่น การเข้าลงทุนโครงการระบบกระจายสัญญาณใยแก้วนำแสง (ไฟเบอร์ออพติก) ในบริษัท เฟิร์สไมล์ จำกัด, การทยอยลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ (Bitcoin Mining) ภายใต้บริษัท ทีวีดี เอ็ม จำกัด (TVDM) เป็นต้น ส่วนธุรกิออนไลน์ช้อปปิ้ง ทีวีช้อปปิ้ง และเทเลช้อปปิ้ง ที่ดำเนินงานภายใต้บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด ทยอยฟื้นตัว จากการปรับกลยุทธ์การตลาดเพิ่มกลุ่มสินค้าที่ทำอัตรากำไรต่อหน่วยสูงขึ้น ส่งผลให้ไตรมาส 3/2565 มีรายได้รวม 494 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 537.4 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 61.8 ล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ขาดทุนสุทธิ 121.2 ล้านบาท
ส่วนแผนธุรกิจในไตรมาส 4/2565 ได้มุ่งลงทุนขยายธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) มีมติจัดตั้งบริษัทย่อยอีก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ทีวีดี เอ็กซ์ซูเซีย จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจบันเทิงครบวงจรด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โดยจะให้บริการจัดงานทุกประเภท เช่น การจัดกิจกรรมทางการตลาด (อีเวนต์) เป็นต้น และก่อนหน้านี้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท เอบีพีโอ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เพนกวินเอ็กซ์ จำกัด ในสัดส่วน 10% ของหุ้นทั้งหมด คิดเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้น 10 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยบริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจให้บริการรับเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจอาหารและโฆษณา ดังนั้นมั่นใจว่าด้วยยุทธศาสตร์ Super Holdings Company จะทำให้ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ก้าวไปอย่างมั่นคง และกลับมาสร้างผลการดำเนินงานเทิร์นอะราวด์ในปี 2566