COM7 ประกาศงบ Q3/65 โตรับสินค้าเทคโนโลยีฟีเวอร์ กวาดรายได้ 15,054 ล้านบาท พุ่งกว่า 49% กำไรอยู่ที่ 725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% สินค้าใหม่แกรนด์โอเพนนิ่งเปิดตัว โดยเฉพาะ iPhone รุ่น 14 วางจำหน่ายเร็วขึ้น ขณะที่ปัจจุบันมีสาขาสุดแข็งแกร่งที่ 1,113 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนโค้งสุดท้าย เดินหน้าขยายมาร์เก็ตแชร์ นำร่องเปิด Dr.Pharma ร้านขายยาสาขาแรกธันวาคมนี้
คุณกชกร บูรณวุฒิกุล Managerial Accounting Manager บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผย ผลดำเนินงานไตรมาส 3/65 มีรายได้รวมจำนวน 15,054.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.1% รายได้หลักมาจากธุรกิจค้าปลีก ที่มีจำนวน 13,054.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.5% มีส่วนมาจากการที่ประเทศไทยขึ้นเป็น Tier-1 ของการจัดจำหน่าย iPhone ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.ย. หรือไตรมาส 3 ของปีนี้ จากเดิมที่จะเริ่มขายในเดือน ต.ค. หรือไตรมาส 4 ของปี ส่งผลให้บริษัทจัดจำหน่าย iPhone ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ภาพรวมการเติบโตของรายได้สาขาเดิม (Same Store Sales Growth) ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนกำไรส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 724.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 570.5 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นต่อรายได้รวม 13.8% ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลังในช่วงที่ผ่านมา
สนับสนุนให้งวด 9 เดือนแรกปี 65 มีรายได้รวมจำนวน 44,182.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.3% กำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 2,127.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 3/65 ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท มีทั้งหมด 1,113 สาขา ได้แก่ BaNANA, Studio7, KingKong Phone, iCare, BKK, E-quip, Bb, B-Play, Franchise, True Shop by Com7 และ Brand shop ซึ่งมีการขยายเพิ่มจากไตรมาส 2/2565 รวมทั้งสิ้น 23 สาขา และคาดว่าในช่วงไตรมาส 4/2565 จะเปิดเพิ่มอีก 51 สาขา
คุณศันสนีย์ แสงโรจน์เพิ่มสุข สว่างเนตร Head of Marketing บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 4/2565 มีทิศทางที่ดี รับอานิสงส์การเปิดตัวสินค้าใหม่จากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ iPhone iPad Smartphone และ Apple Watch เป็นต้น สนับสนุนให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคคึกคัก และเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจสินค้าไอทีและสมาร์ทโฟน จึงมั่นใจว่า เป้าหมายรายได้ปี 2565 จะเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน และตั้งเป้าภายใน 3 ปี เพิ่มส่วนแบ่งตลาด ขยาย Market share ให้อยู่ในระดับ 35% ของมูลค่าตลาดไอทีและสมาร์ทโฟนในประเทศไทยซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท โดยส่วนที่จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ คือ กลุ่มโทรศัพท์มือถือ ที่ได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่ม 5G และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีใหม่ๆ โดย COM7 จะโฟกัสพอร์ตที่มีโอกาสการเติบโตและความสามารถการทำกำไรที่ดี
ขณะที่ กลยุทธ์การขยายสาขา กางแผนปี 2566 คาดเปิดเพิ่มอีกราว 150 แห่ง สนับสนุนจุดแข็งในด้านช่องทางการจำหน่าย เพื่อเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และการโฟกัสรูปแบบสาขา Stand Alone เพิ่มเติม ควบคู่การขยายช่องทางออนไลน์ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ตามกลยุทธ์ Omni Channel สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เชื่อมรอยต่อช่องทางระหว่าง Online to Offline
รวมทั้ง อัพเดทความคืบหน้าความร่วมมือกับ บริษัท รอยัล บางกอกเฮ็ลธ์แคร์ จำกัด บริษัทย่อยของ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ในการประกอบธุรกิจร้านขายยาขนาดใหญ่ เข้าสู่ธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพ รวมถึง โอกาสในการจำหน่ายอุปกรณ์เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มเติม โดยเปิดร้านขายยาภายใต้แบรนด์ Dr.Pharma 4 โมเดลชิมลางตลาด ได้แก่ รูปแบบ Stand alone สาขาทองหล่อ ที่เตรียมเปิดเป็นสาขาแรกในเดือนธันวาคมนี้ อีกทั้ง รูปแบบสาขาในปั๊มน้ำมัน ประเดิมที่ PTT พระราม4 รูปแบบ Market เปิดที่ตลาดเซฟวัน จ.นครราชสีมา อีกทั้ง รูปแบบ Shopping Mall ในห้างซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ จะได้เห็นในช่วงต้นปี 2566 เช่นกัน สะท้อนภาพธุรกิจที่ COM7 จะขยายไป ครอบคลุมสินค้าที่เป็นเทรนด์ของโลกยุคใหม่ต่อเนื่อง