บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST มุ่งเดินหน้าธุรกิจด้วยธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด พร้อมโชว์ความแข็งแกร่งด้วยตัวเลขสะท้อนความมั่งคงของธุรกิจที่มีสภาพคล่องสูงกว่า 5 แสนล้านบาทสำหรับธุรกิจในเครือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกว่า 6 พันล้านบาทในไทย ยืนยันความแข็งแกร่งของบริษัทท่ามกลางสถานการณ์ชะลอตัวของตลาดทุนและความกังวล ตอกย้ำความตั้งใจในการเดินหน้าสู่การเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่หนึ่งในใจคนไทย
นายอารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST กล่าวว่า ท่ามกลางความกังวลที่เกิดขึ้นในการซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศไทย หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ ขอยืนยันความแข็งแกร่งของบริษัท ด้วยการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ AA โดย Fitch Ratings (Thailand) และตัวเลขสภาพคล่องของทั้งเครือธนาคารเมย์แบงก์ ที่มีเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิมากกว่า 5.7 แสนล้านบาท และสภาพคล่องในประเทศไทย กว่า 6,000 ล้านบาท ที่มีมากกว่าที่ก.ล.ต.กำหนดไว้ที่ 25 ล้านบาท นอกจากนั้นบริษัทแม่ของเราธนาคารเมย์แบงก์ ประเทศไทยมาเลเซีย ยังเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอันดับ 70 ของโลก นอกจากนั้น เมย์แบงก์ยังมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด มีการแยกทรัพย์สินของลูกค้าจากทรัพย์สินของบริษัท มีการทำทะเบียนควบคุมความถูกต้องแยกรายลูกค้า และรายงานต่อ ก.ล.ต. อย่างสม่ำเสมอโดยมีมาตรฐานการทำงานเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งเทียบเท่าระดับสากล
นอกจากนั้น หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ ยังเป็นบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนที่เน้นย้ำการลงทุนด้วยความรู้ การลงทุนที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องของการพนัน แต่เป็นเรื่องของการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ถี่ถ้วน ด้วยตัวเอง ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ โดยมีหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ พร้อมเป็นที่ปรึกษาการลงทุนให้คนไทย โดยเปลี่ยนความเสี่ยงให้เป็นโอกาสผ่านการใช้เครื่องมือดิจิทัลแพลตฟอร์มอย่าง Maybank Invest เพื่อส่งต่อข้อมูลและเพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับทุกคนได้อย่างเท่าเทียม
"ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ด้วยความแข็งแกร่งทางการเงิน หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มีความพร้อมในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ช่วยจัดการความมั่งคั่งและการลงทุน เดินหน้าตามวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้างโอกาสการลงทุนให้กับทุกคนได้อย่างเท่าเทียมต่อไป" นายอารภัฏ กล่าวสรุป