กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด วันนี้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Disk Array ระดับเริ่มต้นใช้งานรุ่นใหม่ที่สามารถช่วยให้ลูกค้ารวมระบบจัดเก็บข้อมูลเอาไว้ที่ศูนย์กลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลระบบ พร้อมทั้งช่วยลดดาวน์ไทม์ของธุรกิจ
ผลิตภัณฑ์ HP StorageWorks 2000 Modular Smart Array (MSA2000) ประกอบด้วย Disk Array แบบ Fibre Channel และ iSCSI ที่มีราคาประหยัดสำหรับใช้เป็นเครือข่ายระบบจัดเก็บข้อมูล (storage area networks -SAN) ซึ่งมีความพร้อมใช้งานสูงและสามารถรองรับการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ที่ทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นโดยเฉพาะ
ระบบสำหรับองค์กรธุรกิจที่ใช้งานง่ายนี้ออกแบบมาสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กโดยเฉพาะ แต่อย่างไรก็ตามองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ก็สามารถนำเอาผลิตภัณฑ์ MSA2000 ไปใช้รองรับการทำงานของสาขาสำนักงาน แผนก หรือใช้เป็นระบบจัดเก็บข้อมูลระดับสองหรือระดับสามได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน
นักวิจัยต่างๆ สำรวจพบว่าตลาดระบบจัดเก็บข้อมูลภายนอกระดับเริ่มต้นใช้งานในปี พ.ศ. 2549 มีมูลค่าถึง 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี พ.ศ. 2550 ที่ผ่านมาเอชพีเป็นผู้นำตลาดนี้ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 21(1)
มร. จอห์น เว็บสเตอร์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านไอทีของบริษัท Illuminata Inc. กล่าวว่า "ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเอชพีในตลาด SAN ระดับเริ่มต้นใช้งานทำให้พวกเขาสามารถพัฒนาโซลูชั่นที่มีความคุ้มค่า มีความพร้อมใช้งานสูง และมีความสามารถในการขยายระบบได้มาก ปัจจุบันตลาดยังคงมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลขนาดเล็กเพื่อรองรับการจัดเก็บข้อมูลและแอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญ และรองรับการติดตั้งใช้งานของเซิร์ฟเวอร์แบบเวอร์ช่วลอีกด้วย"
ลูกค้าสามารถนำผลิตภัณฑ์ MSA2000 ไปติดตั้งใช้งานได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นในเซิร์ฟเวอร์จริงหรือเซิร์ฟเวอร์แบบเวอร์ช่วลก็ตาม เพื่อใช้เป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและมีความพร้อมใช้งาน นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์ MSA2000 รุ่นนี้ยังรองรับการทำงานของแอพพลิเคชั่นได้หลากหลายชนิด อาทิ ซอฟต์แวร์เวอร์ช่วลไลเซชั่นของ VMware ผลิตภัณฑ์ MSA2000 จะช่วยให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากดิสก์ได้มากขึ้น โดยสามารถเลือกติดตั้งไดร์ฟแบบ SAS หรือ SATA ผสมกัน เพื่อที่จะได้ระบบที่มีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ และราคาที่เหมาะกับความต้องการทางธุรกิจมากที่สุด
คุณสมบัติใหม่ต่างๆ ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ MSA2000 จะช่วยเพิ่มเวลาที่แอพพลิเคชั่นมีความพร้อมใช้งานมากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าระบบจะมีความพร้อมรองรับการดำเนินงานของธุรกิจอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น การมีพาวเวอร์ซัพพลายคู่ คอนโทรลเลอร์คู่ซึ่งสามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ และฮาร์ดแวร์สำรองที่มีระบบโอนการทำงานจากจุดที่เสียไปยังจุดที่ใช้งานได้อัตโนมัติ คุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยลดดาวน์ไทม์ของธุรกิจลงอย่างมาก
และเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการที่ระบบไม่สามารถทำงานได้จนอาจทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก ผลิตภัณฑ์ MSA2000 จึงมาพร้อมกับซอฟต์แวร์การจัดการที่มีคุณสมบัติ "snap and clone" ในตัว ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ ซอฟต์แวร์ดังกล่าวเป็นการทำข้อมูลซ้ำในรูปแบบใหม่และมีความสำคัญสำหรับการปกป้องข้อมูลและการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบไอทีให้มีความคล่องตัวมากขึ้นด้วยระบบสำรองและกู้ข้อมูลที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้น ระบบป้องกันข้อมูลซึ่งทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นนี้ยังมีระบบ Cache แบบคงที่ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่สำรอง จึงช่วยลดปัญหาชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดมลพิษแก่สภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์ MSA2000 ทั้งที่เป็นแบบ iSCSI และ Fibre Channel สามารถทำงานร่วมกับเซิร์ฟเวอร์ HP BladeSystem ได้ และมีหน้าจอควบคุมบริหารในตัว เพื่อใช้ในการติดตั้งและปรับแต่งระบบจัดเก็บข้อมูลได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ใดๆ เพิ่มเติม รูปแบบการทำงานดังกล่าวช่วยให้ลูกค้าที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ HP BladeSystem สามารถติดตั้งผลิตภัณฑ์MSA2000 ลงไปในระบบที่มีอยู่แล้วได้อย่างง่ายดาย และสามารถปรับแต่งระบบเบลดที่มีอยู่ทั้งหมดได้ในครั้งเดียว แทนที่จะต้องปรับแต่งระบบเบลดทีละชุด
โครงสร้างแบบโมดูลที่มีความยืดหยุ่นของพอร์ทโฟลิโอ HP StorageWorks ช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มบริการไฟล์ลงไปในผลิตภัณฑ์ตระกูล MSA2000 ได้อย่างง่ายดาย โดยใช้ซอฟต์แวร์ HP ProLiant Storage Servers หรือ HP StorageWorks EFS Clustered Gateway จากการที่ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือปรับแต่งและเครื่องมือบริหารระบบของเซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant ที่มีความคุ้นเคยอยู่แล้ว ทำให้ผู้จัดการแผนกไอทีไม่จำเป็นต้องฝึกอบรมการใช้ระบบใหม่มากเหมือนเช่นเคย ในขณะที่การบริหารระบบก็จะทำได้โดยง่ายอีกด้วย
มร. จิม แวกสตาฟ รองประธานและผู้จัดการทั่วไปแผนก StorageWorks Division ของบริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า "ผลิตภัณฑ์ MSA ของเอชพีเหมาะสำหรับลูกค้าที่มีงบประมาณด้านไอทีจำกัด แต่ต้องการโซลูชั่นที่สามารถขยายระบบได้อย่างรวดเร็วเพื่อรองรับการทำงานของระบบจัดเก็บข้อมูลที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากการรวมระบบจัดเก็บข้อมูลเข้าด้วยกัน และสามารถใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติต่างๆอาทิ คุณสมบัติ snap and clone เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญของตนเอง และเพิ่มคุณค่าให้กับธุรกิจอีกด้วย"
ผลิตภัณฑ์ MSA2000 สามารถขยายพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้มากถึง 36 เทราไบต์ และสามารถรองรับการเชื่อมต่อกับโฮสต์ในรูปแบบ Fibre Channel ขนาด 4 กิกะไบต์ (MSA2000fc) หรือ iSCSI ขนาด 1 กิกะไบต์ (MSA2000i) ได้ ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้สามารถติดตั้งดิสก์ไดรฟ์ประเภท SAS หรือ SATA ได้มากถึง 48 ลูก เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกจัดสรรองค์ประกอบที่มีประสิทธิภาพ ราคาคุ้มค่า และประหยัดพลังงานสูงสุดเพื่อนำมาใช้งานร่วมกันในแบบที่ต้องการ
ราคาและการวางจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์ HP StorageWorks 2000 Modular Smart Array เริ่มจำหน่ายแล้ว โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 300,000 บาท(2)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ MSA2000 ได้ที่ www.hp.com/go/msa2000
ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพีมุ่งมั่นสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย สำหรับลูกค้าในทุกระดับ นับตั้งแต่ผู้บริโภคระดับคอนซูเมอร์ไปจนถึงองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ด้วยสายผลิตภัณฑ์ซึ่งครอบคลุมถึงด้านโซลูชั่นภาพและการพิมพ์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซอฟต์แวร์ บริการ และโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ทำให้
เอชพีเป็นหนึ่งในบริษัทด้านไอทีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ วันที่ 31 มกราคม 2551 เอชพีมีรายได้รวมนับจาก 4 ไตรมาสทั้งสิ้น 107.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
เอชพี (NYSE, Nasdaq: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hp.com
หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ: ข่าวเพิ่มเติมจากเอชพี รวมทั้งลิงค์ไปหาระบบส่งข้อมูล RSS ดูได้ที่ www.hp.com/hpinfo/newsroom/
(1) ข้อมูลจาก IDC ประจำไตรมาส 3 ปี พ.ศ. 2550 เกี่ยวกับจำนวนการจำหน่ายระบบจัดเก็บข้อมูลแบบดิสก์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550
(2) ราคาโดยประมาณ ราคาจริงอาจแตกต่างออกไป