CPANEL ประกาศปรับเป้าหมายรายได้ปี 65 โต 35% เพิ่มความสามารถการทำกำไรต่อเนื่อง ผลลัพธ์พัฒนาระบบดันกำลังการผลิตเพิ่ม 10% ติดตั้งระบบกักเก็บฝุ่น ผงปูนซีเมนต์ นำกลับมาใช้ใหม่ประหยัดปูน 675 กิโลกรัม/เดือน แนวโน้มไตรมาส 4/65 โตดี ภาพรวมอสังหาฯคึกคัก ผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นเร่งขายหนุนความต้องการ Precast Concrete ด้านงบไตรมาส 3/65 ทำ All Time High 5 ไตรมาสติด รายได้ 122.15 ล้านบาท กำไรพุ่ง 613.29%
นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast) ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 35% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 25% พร้อมเพิ่มความสามารถการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การเติบโตที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการพัฒนาระบบการผลิตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากขึ้นถึง 10% พร้อมลดความผิดพลาด ความสูญเสียในการผลิต เพิ่มโอกาสการรับงานและส่งมอบงานที่มีคุณภาพได้รวดเร็วขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน จึงใส่ใจในการออกแบบระบบการผลิตอย่างรัดกุม โดยทำการติดตั้งระบบเครื่องกำจัดมลภาวะทางอากาศ (Dust Collector) กักเก็บฝุ่น และผงปูนซีเมนต์ในระหว่างขั้นตอนการผลิต ซึ่งระบบดังกล่าว นอกจากช่วยกักเก็บฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจายแล้ว ยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ประมาณ 675 กิโลกรัมต่อเดือน
สำหรับการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มที่ดี ภาพรวมอสังหาฯ ค่อนข้างคึกคักอานิสงส์จากการเปิดประเทศ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ประกอบกับผู้ประกอบการอสังหาฯ จัดโปรโมชั่นทิ้งท้ายช่วงสิ้นปี และเร่งส่งมอบงาน ส่งผลให้มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ Precast Concrete มากขึ้น
ขณะที่ ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 122.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 92.67% และมีกำไรสุทธิ 24.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 613.29% ซึ่งเป็นการทำ All Time High 5 ไตรมาสติดต่อกัน
ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 316.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 43.52% และมีกำไรสุทธิ 48.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 142.48% ซึ่งเติบโตมากกว่าผลประกอบการทั้งปี 2564 ที่มีรายได้รวม 312.44 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 31.80 ล้านบาท