สาริศ สุวรรณรัตน์ หวดเพิ่มอีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 ขยับขึ้นนำบนคลับเฮาส์ร่วมกับ มาเธียม เคย์เซอร์ โปรจากแอฟริกาใต้ หลังจบรอบสองที่สกอร์รวมคนละ 11 อันเดอร์พาร์ 133 ในศึก "บีเอ็นไอ อินโดนีเซียน มาสเตอร์ส" ที่สนามรอแยล จาการ์ต้า กอล์ฟ คลับ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ยังมีผู้เล่นบางส่วนยังแข่งขันไม่จบเนื่องจากฟ้ามืด ต้องไปเล่นต่อในเช้าวันรุ่งขึ้น
เอเชียนทัวร์ ร่วมกับ ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ จัดการแข่งขันกอล์ฟ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ รายการที่ 7 ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาล ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 53 ล้านบาท ณ สนามรอแยล จาการ์ต้า กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,368 หลา พาร์ 72 ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 1-4 ธันวาคมนี้ โดยมีเหล่าโปรชั้นนำของเอเชียน ทัวร์ และนักกอล์ฟแถวหน้าของอินโดนีเซียลงแข่งขันรวม 144 คน ซึ่งเป็นผู้เล่นชาวไทยทั้งสิ้น 33 คน
วันที่สองของการแข่งขัน โปรเซฟ-สาริศ สุวรรณรัตน์ วัย 24 ปี ออกสตาร์ทด้วยสกอร์ตามหลัง มาเธียม เคย์เซอร์ ผู้นำรอบแรกจากแอฟริกาใต้ อยู่หนึ่งสโตรค รอบนี้ทำ 7 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ จบ 18 หลุมได้อีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 รวมสองวันขยับขึ้นมานำบนคลับเฮาส์ร่วมกับ เคย์เซอร์ ที่รักษาฟอร์มเหนียว หลังหวดเพิ่มอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 จากการทำ 6 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้
สาริศ สุวรรณรัตน์ ซึ่งล่าสุดจบอันดับ 3 ร่วมในรายการ เมอร์คิวรี ไต้หวัน มาสเตอร์ส เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เผยว่า "หลังจากจบอันดับ 3 ที่ไต้หวันทำให้ผมรู้สึกมั่นใจขึ้น เล่นกอล์ฟได้สนุกขึ้น แต่ก่อนที่จะมารายการนี้ ผมเล่นได้ใม่ค่อยดี และได้ปรึกษากับโค้ชและช่วยกันแก้ปัญหา ซึ่งก็ได้ผล ผมเริ่มตีได้ดีขึ้น ตีเหล็กได้เข้าเป้ายกเว้นหลุมสุดท้ายวันนี้ และนี่คือสิ่งที่ทำให้ผมทำผลงานได้ดีในสัปดาห์นี้"
ขณะที่ โปรแจ๊ส-อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2019 ระเบิดฟอร์มร้อนแรงหวดวันเดียว 7 อันเดอร์พาร์ 65 จาก 8 เบอร์ดี้ เสียเพียงโบกี้เดียว ไล่ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ร่วมกับ อานีร์บาน ลาฮิรี แชมป์ปี 2014 จากอินเดีย และผู้เล่นอีก 3 คนที่ยังไม่จบรอบสองอย่าง โคสุเกะ ฮามาโมโต้ โปรหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ผู้นำบนคลับเฮาส์รอบแรก ที่ยังเหลือการเล่นอีกสองหลุม, ชาน ชิ ชาง จากไต้หวัน ที่เหลืออีก 3 หลุม และ เวียร์ อาห์ลาวัต โปรดาวรุ่งของอินเดีย ที่เล่นไปได้ 13 หลุม
ทางด้าน โปรเพชร-สดมภ์ แก้วกาญจนา ตามมาที่อันดับ 8 ร่วมกับ แกรม แม็คโดเวลล์ ดาวดังจากไอร์แลนด์เหนือ ที่สกอร์รวมเท่ากัน 7 อันเดอร์พาร์ 137 ส่วน ลี เวสต์วูด แชมป์ 3 สมัยจากอังกฤษ ที่รอบแรกตีเกินไป 2 โอเวอร์พาร์ เร่งเครื่องหวด 6 อันเดอร์พาร์ 66 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 23 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 140 และ เออร์นี เอลส์ จากแอฟริกาใต้ เก็บอีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสองวันมี 2 อันเดอร์พาร์ 142 อยู่อันดับ 34 ร่วม
ทั้งนี้ยังมีนักกอล์ฟอีก 49 คนยังแข่งขันรอบสองไม่จบเนื่องจากฟ้ามืดเสียก่อน ทำให้ต้องไปเล่นต่อในเช้าวันเสาร์ จากนั้นจะตัดตัวผู้เล่นเข้าสู่สองรอบสุดท้ายต่อไป
ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์ www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour