บมจ.เคที เมดิคอล เซอร์วิส ("KTMS") หนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบครบวงจร (One-stop Services) ประกาศเคาะราคาเสนอขาย IPO ที่ระดับ 3.10 บาทต่อหุ้น พร้อมแต่งตั้ง บล.โกลเบล็ก เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และ บล.พาย เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 76.64 ล้านหุ้น จ่อเปิดให้ผู้ถือหุ้น บมจ.ฟิลเตอร์ วิชั่น ("FVC") ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นตามสิทธิ Pre-emptive ซื้อหุ้น ระหว่างวันที่ 7-9 ธ.ค. และเปิดให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อระหว่างวันที่ 13-15 ธ.ค. พร้อมดีเดย์ เข้าเทรด mai ในหมวดธุรกิจบริการ 23 ธ.ค.นี้ ระบุ "KTMS" จัดอยู่ในประเภทหุ้น ESG ที่มีความยั่งยืนต่อเนื่อง และมีความเสี่ยงต่ำ เป็นหุ้นที่มีรายได้มั่นคงมีอัตราการเติบโตสูง
วันที่ 6 ธันวาคม 2656 บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) "KTMS" ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Lead Underwriter) พร้อมแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Co-Underwriter) ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)
นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผย ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของบมจ.เคที เมดิคอล เซอร์วิส ("KTMS") ว่า ล่าสุดได้มีการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ "KTMS" ที่ระดับราคา 3.10 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 37.29 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565) โดยระดับราคาดังกล่าวถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม เมื่ออิงกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจ สู่การเป็นหนึ่งในผู้นำการดำเนินธุรกิจการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมทั้งการขายและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อย่างครบวงจร เป็นรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
"KTMS" เป็นหุ้นที่มีความโดดเด่น เนื่องจากบริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบ One-stop Services ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และที่สำคัญยังเป็นหลักทรัพย์รายแรกที่เป็นหนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่ครบวงจร
นอกจากนี้ "KTMS" ยังได้รับการสนับสนุนจากโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐ อาทิ โครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนงบบริการผู้ป่วยเรื้อรัง จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่สนับสนุนให้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ที่มีสิทธิสามารถร่วมตัดสินใจเลือกวิธีการล้างไต เป็นแบบฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมร่วมกับแพทย์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้มีจำนวนผู้ป่วยใช้บริการกับกลุ่มบริษัทฯมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวจึงตอกย้ำถึงศักยภาพทางธุรกิจของ "KTMS" ได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า การระดมทุนในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในการเปิดรับโอกาสการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของ "KTMS" ในอนาคต
ด้านนายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดราคาในการเสนอขายที่ระดับราคา 3.10 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ทั้งนี้ "KTMS" เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 76.64 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.55 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 300 ล้านหุ้น เป็นทุนที่ชำระแล้ว 111.68 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 223.36 ล้านหุ้น โดยจะเปิดให้ผู้ถือหุ้น บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) ("FVC") ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นตามสิทธิ Pre-emptive จองซื้อระหว่างวันที่ 7-9 ธ.ค. ขณะที่นักลงทุนทั่วไป จะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 13-15 ธ.ค.2565 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ ภายใต้ชื่อย่อ "KTMS"ภายในวันที่ 23 ธ.ค. 2565 นี้
"KTMS" เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบ One-stop Services ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล โดยมีทีมวิศวกร ทีมแพทย์ และพยาบาล ไตเทียมที่มีคุณภาพ มีความชำนาญ และเชี่ยวชาญเฉพาะด้านภายใต้การให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis) ในรูปแบบคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม (Stand-Alone) และหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาล (Outsource) ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลรัฐ และกลุ่มลูกค้าเอกชน โดยปัจจุบัน "KTMS" มีเครื่องไตเทียมรวม จำนวน 254 เครื่อง มีหน่วยไตเทียม จำนวน 20 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ แบ่งออกเป็นหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาล จำนวน 17 สาขา และคลินิกเวชกรรมไตเทียม จำนวน 3 สาขา ประกอบด้วย ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร 2 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 สาขา ภาคเหนือ 4 สาขา ภาคตะวันออก 2 สาขา และภาคตะวันตก 2 สาขา
ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน มีความเชื่อมั่นว่า หุ้น "KTMS" เป็นหุ้น IPO น้องใหม่ที่น่าจับตา เนื่องจาก "KTMS" เป็นหุ้นที่มีรายได้มั่นคง และมีอัตราการเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ "KTMS" จัดอยู่ในประเภทหุ้น ESG ที่มีความยั่งยืนต่อเนื่อง และมีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มผู้ถือหุ้น และ นักลงทุน ในแง่ของผลตอบแทนทางการเงิน และยังถือว่าเป็นหุ้นที่ให้ความสำคัญทางด้านสังคมอีกด้วย ดังนั้นจึงมองว่าหุ้น "KTMS" สามารถตอบโจทย์การลงทุนได้เป็นอย่างดี
นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ "KTMS" เปิดเผยว่า จากศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจ บริษัทฯยังคงมีโอกาสเติบโต ในธุรกิจการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายของภาครัฐ และจำนวนผู้ป่วยที่ใช้บริการ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัจจุบันประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะมีการทำงานของไตเสื่อมลง จึงส่งผลให้ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมการบริโภคของคนไทย ก็เป็นส่วนหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคไตวายเรื้อรัง โดยจะเห็นได้จากจำนวนผู้ป่วยดังกล่าว ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15% ต่อปี ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลเชิงบวกให้ "KTMS" มีอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้เฉลี่ยประมาณ 30% ต่อปี
ด้วยจุดเด่นของ "KTMS" ภายใต้วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตไปข้างหน้า ด้วยแรงบันดาลใจที่เกิดจากความหวัง ภายใต้แนวคิด "Inspiration from HOPE" ส่งผลให้บริษัทฯ มุ่งเน้นการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมทั้งการขายและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แบบ One-stop Services ซึ่งถือเป็นผู้นำ ที่ให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเพียงไม่กี่ราย ที่สามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร ภายใต้คุณภาพ ในการให้บริการที่เป็นเลิศ โดยมีทีมแพทย์ ทีมพยาบาลระดับเชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคไตเทียม และทีมวิศวกร ที่มีคุณภาพ จนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 15 ปี
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งมีการต่อสัญญาการให้บริการมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 5 ปี รวมถึงบริษัทย่อย ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ที่เกี่ยวข้องกับระบบผลิตน้ำสำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และระบบบำบัดน้ำเสีย มากว่า 20 ปี จึงทำให้กลุ่มบริษัทฯสามารถให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างมีคุณภาพ
อย่างไรก็ตาม สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากระดมทุนในครั้งนี้ กว่า 237 ล้านบาท บริษัทฯจะนำไปต่อยอดธุรกิจการให้บริการ เพื่อใช้ลงทุนในสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม จำนวน 155 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม 14 แห่ง ทั่วประเทศ แบ่งเป็น Outsource 8 สาขา และ 6 สาขา ที่เป็น Stand Alone ซึ่งจะทำให้มีจำนวนเครื่องไตเทียม เพิ่มขึ้น 123 เครื่อง นอกจากนี้ ยังใช้ลงทุนในโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียม และศูนย์บริการวิศวกรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 61 ล้านบาท เพื่อรองรับปริมาณผู้ป่วยโรคไตที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการขยายขอบเขตการให้บริการที่ครอบคลุมในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ