หอสมุดเนียลเซน เฮส์ ได้รับรางวัลเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำปี พ.ศ. 2565 (UNESCO Cultural Heritage Conservation Award 2022) ประเภท Award of Distinction จากการประกาศล่าสุดขององค์การยูเนสโก
นางสาวนลิน วนาสิน ประธานคณะกรรมการบริหารสมาคมหอสมุดเนียลเซน เฮส์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ประกาศให้หอสมุดเนียลเซน เฮส์ ได้รับรางวัลเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำปี พ.ศ. 2565 (UNESCO Cultural Heritage Conservation Award 2022) ประเภท Award of Distinction ซึ่งมอบให้แก่โครงการที่ประสบความสำเร็จเป็นเลิศในทุกด้านและก่อให้เกิดผลที่นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในระดับชาติ หรือ ระดับภูมิภาค โดยคณะกรรมการตัดสินของยูเนสโกกล่าวเชิดชูเกียรติหอสมุดเนียลเซน เฮส์ ว่าเป็นโครงการที่อนุรักษ์ความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมตะวันตกในยุคต้นศตวรรษที่ 20 ไว้ได้อย่างกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมในโลกตะวันออก
อาคารหอสมุดเนียลเซน เฮส์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคที่ออกแบบโดยมารีโอ ตามัญโญ สถาปนิกชาวอิตาเลียน ผู้เข้ามารับราชการในสมัยรัชกาลที่ 5 เปิดดำเนินการในปี พ.ศ.2465 ถือเป็นหอสมุดชุมชนที่รวบรวมหนังสือภาษาอังกฤษแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นหอสมุดแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เปิดดำเนินการโดยสมาคมสตรีด้วย นอกจากความงดงามเชิงสถาปัตยกรรม ภายในตัวอาคารยังออกแบบผนังสองชั้นเพื่อช่วยให้มีอากาศถ่ายเทจึงช่วยเรื่องการเก็บรักษาหนังสือได้เป็นอย่างดีในยุคที่ยังไม่มีเครื่องปรับอากาศ ทั้งเป็นเสมือนศูนย์กลางทางวัฒนธรรมใจกลางกรุงเทพฯ ที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน
"ผลของรางวัลนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายที่ล้วนมีความรักในหอสมุดเนียลเซน เฮส์ ซึ่งขอขอบคุณสมาชิกหอสมุดทุกคนและผู้สนับสนุนทุกท่าน อาทิ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มูลนิธิสิริวัฒนภักดี มูลนิธิ James H.W. Thompson ธนาคารไทยพาณิชย์ คุณสรวิช ภิรมย์ภักดี บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด บริษัท ลัคกี้ ลิฟวิ่ง พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ที่มีส่วนช่วยพัฒนาให้หอสมุดแห่งนี้ยังคงความงดงามทรงคุณค่าและสามารถเดินหน้าทำหน้าที่เป็นหอสมุดสาธารณประโยชน์ได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต" นางสาวนลิน วนาสิน กล่าว
สำหรับการประกวดรางวัลเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำปี พ.ศ. 2565 มีโครงการส่งเข้าพิจารณาจำนวนทั้งสิ้น 50 โครงการจาก 11 ประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยมีโครงการที่ได้รับรางวัล 13 โครงการ จาก 6 ประเทศ ได้แก่ อัฟกานิสถาน จีน อินเดีย อิหร่าน เนปาล และประเทศไทย อาทิ The Chhatrapati Shivaji Maharaj Vastu Sangrahalaya พิพิธภัณฑ์ในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย Topdara Stupa สถูปหินในเมืองชาริการ์ ประเทศอัฟกานิสถาน และ Natian Buddhist Temple วัดในมณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงหอสมุดเนียลเซน เฮส์ ประเทศไทย