กรุงเทพฯ--8 เม.ย.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
บลจ.เอ็มเอฟซี จับมือแบงก์ออมสิน ตั้งกองทุนรวมออมสิน M-GSB 7,500 ล้านบาท ชูจุดเด่นคุ้มครองเงินต้นพร้อมรับผลตอบแทนขั้นต่ำเฉลี่ย 3% ต่อปีตลอดอายุโครงการ เปิดขายครั้งเดียวสำหรับบุคคลและนิติบุคคลทั่วไปวันที่ 4-9 เมษายน 2551
บลจ.เอ็มเอฟซี จับมือแบงก์ออมสิน เปิดตัวกองทุนรวมออมสิน M-GSB มูลค่า 7,500 ล้านบาท อายุโครงการ 5 ปี เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุน ที่ธนาคารออมสินถือครองเป็นหลักในช่วงแรก ที่เหลือลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนตลอดจนหลักทรัพย์ และทรัพย์สินอื่น ชูจุดเด่น หากถือหน่วยลงทุนครบอายุโครงการจะได้รับความคุ้มครองเงินลงทุนพร้อมรับผลตอบแทนขั้นต่ำเฉลี่ยต่อปีตลอดอายุโครงการในอัตรา 3%แถมโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุดถึง 9% ตามเงื่อนไขการจ่ายเงินปันผลที่ระบุในโครงการ โดยเปิดโอกาสรายย่อยร่วมลงทุน 1,875 ล้านบาท ซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท เปิดขายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันที่ 4-9 เมษายน 2551 สำหรับบุคคลและนิติบุคคลทั่วไป
นายวิศิษฐ์ วงศ์รวมลาภ กรรมการธนาคารออมสิน รักษาการแทน ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารออมสินได้มุ่งส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ด้าน ตามกรอบแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานปี 2551-2555 โดยที่ธนาคารออมสินได้มีการพัฒนาและส่งเสริมรูปแบบการออมให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ประชาชนและลูกค้าของธนาคารมีโอกาสในการเลือกรับผลตอบแทนที่ดีและเหมาะสม ล่าสุดนี้ ธนาคารออมสิน ได้ร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) จัดตั้ง กองทุนรวมออมสิน มูลค่าโครงการรวม 7,500 ล้านบาท อายุโครงการ 5 ปี
"ธนาคารออมสิน และ บลจ.เอ็มเอฟซี ได้ร่วมกันสร้างสรรค์โอกาสและทางเลือกด้านการออมเพื่อผู้ลงทุนมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งที่จะเพิ่มศักยภาพด้านผลตอบแทนให้แก่ประชาชน" นายวิศิษฐ์ กล่าว
ดร.พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการจัดตั้งกองทุนรวมออมสินเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุน โดยการเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ความคุ้มครองเงินต้น และผลตอบแทนขั้นต่ำเฉลี่ยต่อปี ซึ่งเป็นการส่งเสริมการลงทุนให้ผู้ลงทุนสามารถบริหารจัดการทางการเงินได้อย่างปลอดภัยและมั่นคง และถือเป็นการร่วมพัฒนาระบบสถาบันการเงินให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธนาคารออมสินและเอ็มเอฟซีจะพัฒนาความร่วมมือด้านต่างๆ ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมทางการเงินใหม่ๆ ต่อไปในอนาคต
กองทุนรวม M-GSB เป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน โดยช่วงแรกจะลงทุนในหุ้นที่ธนาคารออมสินถือเป็นหลัก รวมทั้งหลักทรัพย์อื่นที่น่าสนใจ และสามารถลงทุนในต่างประเทศได้ด้วย ซึ่งเอ็มเอฟซีสามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนตามความเหมาะสมกับสภาวะการณ์ของตลาดเงินและตลาดทุน ตลอดจนปัจจัยภายในและภายนอกประเทศที่มีผลกระทบต่อการลงทุน เพื่อผลตอบแทนที่ดีและการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน หลังครบอายุโครงการ ธนาคารออมสินจะรับซื้อคืนทรัพย์สินในกองทุนในราคาต้นทุน
ทั้งนี้ กองทุนรวม M-GSB มีมูลค่าโครงการ 7,500 ล้านบาท อายุโครงการ 5 ปี โดยแบ่งหน่วยลงทุนเป็น 2 ประเภท คือ หน่วยลงทุนจำนวน 1,875 ล้านบาทสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก.ซึ่งเป็นบุคคลทั่วไปรวมถึงนิติบุคคล หรือประมาณร้อยละ 25 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด โดยเปิดขายให้รายย่อยตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 9 เมษายนนี้ และหน่วยลงทุนอีก 5,625 ล้านบาทสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข.ได้แก่ธนาคารออมสินหรือประมาณมากกว่าร้อยละ 75 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด โดยเปิดขายให้ธนาคารออมสินวันที่ 10 เมษายนนี้
กองทุนรวม M-GSB เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนที่ธนาคารออมสินถือครองเป็นหลักในช่วงแรก ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ และหรือเงินฝาก ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตลอดจนหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่น โดยอาจลงทุนในหลักทรัพย์ดังกล่าวในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง และอาจมีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) เพื่อการลดความเสี่ยง (Hedging) และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note) ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานกลต. ได้ออกประกาศเกี่ยวกับการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ตลอดจนอัตราส่วนการลงทุนในสัญญา หรือตราสารดังกล่าว และมีการลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 30 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ดร.พิชิต กล่าวต่อไปว่า จุดเด่นของกองทุนรวม M-GSB คือ หากผู้ถือหน่วยลงทุนรายย่อยหรือประเภท ก ถือหน่วยลงทุนจนครบอายุโครงการจะได้รับความคุ้มครองเงินลงทุนและผลตอบแทนขั้นต่ำเฉลี่ยต่อปีต่ออายุโครงการในอัตราร้อยละ 3 และมีโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุดได้ถึงร้อยละ 9 ตามเงื่อนไขการแบ่งผลตอบแทนระหว่างผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. และผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข. เพื่อจ่ายเงินปันผลตามที่ระบุไว้ในโครงการ โดยกองทุนมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก จะได้รับเงินปันผลร้อยละ 3 ของเงินลงทุนก่อน นอกจากนี้หากเปรียบเทียบกับกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 จะเห็นว่ากองทุนรวม M-GSB มีลักษณะกองทุนใกล้เคียงกัน แต่กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ซึ่งมีอายุโครงการ 10 ปี และเหลืออายุโครงการมากกว่า 6 ปี ขณะที่กองทุนรวม M-GSB มีอายุโครงการ 5 ปี ดังนั้น กองทุนรวม M-GSB จึงมีความน่าสนใจ เนื่องจากมีระยะเวลาการลงทุนที่น้อยกว่า คุ้มครองเงินต้น ให้ผลตอบแทนขั้นต่ำที่น่าพอใจ และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง
กองทุนรวม M-GSB เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ และสามารถลงทุนได้ในระยะปานกลางถึงระยะยาว ทั้งนี้ บริษัทจะนำหน่วยลงทุนของกองทุนรวม M-GSB เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเมื่อครบอายุโครงการ 5 ปี บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดในวันสิ้นสุดอายุโครงการ เพื่อใช้ในการสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มันนี่ แมเนจเม้นท์ (MMM) โดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนจะสามารถขายคืนหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนอื่นได้ต่อไป
นักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนรวม M-GSB สามารถจองซื้อขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 1,000 บาทและเพิ่มเป็นทวีคูนของ 1,000 บาท โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือติดต่อ Contact Center กด 0 หรือที่ www.mfcfund.com
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ: คุณสุทรรศิกา คูรัตน์, คุณสุวรรณา ชีวนันทชัย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)
โทร.0-2649-2230, 0-2649-2232
ศริญญา แสนมีมา /ตรึงฤทัย สันโดษ เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
โทร. 0-2204-8552, 0-2204-8078 โทรสาร 0-2259-9246