CHOW ปลื้มตลาด Solar Rooftop ในประเทศติดลมบน หลังค่าไฟพุ่ง เอกชนหันหาพลังงานทดแทนหวังลดต้นทุนระยะยาว ล่าสุดเตรียมขายไฟอีก 22.23 เมกะวัตต์ จากโครงการ Private PPA ร่วมกับคอนวีเนี่ยนสโตร์ยักษ์ใหญ่กว่า 1,200 สาขา เผยรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ไตรมาส 4/2565 วางเป้าสิ้นปี 66 ดันยอด Solar Rooftop ในมือโตกว่าเท่าตัวทะลุ 150 เมกะวัตต์
นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (CFO) บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศ และธุรกิจพลังงานทดแทน ประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดเผยถึงธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ในประเทศไทยว่าเติบโตดีและสามารถทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งภาคธุรกิจเอกชนและภาคครัวเรือน โดยล่าสุดโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop Private PPA) ร่วมกับคอนวีเนี่ยนสโตร์ยักษ์ใหญ่ จำนวน 1,222 สาขา ได้ก่อสร้างเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย และพร้อมขายไฟทันทีจำนวน 22.23 เมกะวัตต์ โดยจะรับรู้รายได้จากโครงการใหม่นี้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2565 เป็นต้นไป
"ในปีนี้ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ของบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องมาจากการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมของภาคเอกชนและการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมจากทางภาครัฐ ประกอบกับการปรับเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้าในประเทศ เป็นตัวเร่งให้ภาคเอกชนหันมาปรับลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานอย่างจริงจัง ด้วยการเลือกติดระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาซึ่งเป็นพลังงานสะอาด โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าเอกชนรายใหญ่ ซึ่ง CHOW นั้นเองก็มีจุดแข็งจากประสบการณ์ที่พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งในและต่างประเทศ มีทีมงานที่เชี่ยวชาญด้วยบริการที่ครบวงจร ทั้งยังมีผลงานที่ได้รับการยอมรับในตลาดมาแล้วอย่างกว้างขวาง ประการสำคัญบริษัทมี supply chain ที่แข็งแกร่งทำให้เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบและอุปกรณ์ ในราคาที่แข่งขันในตลาดได้อย่างคล่องตัว ตลอดจนมีกระแสเงินสดและแหล่งเงินทุนที่พร้อมรองรับการขยายธุรกิจที่จะมีขึ้นในอนาคต โดยในปี 2565 CHOW ได้ก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จและเชื่อมต่อระบบจ่ายไฟแล้วจำนวนกว่า 30 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนารวมถึงก่อสร้างในมือจำนวน 50 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้บริษัทฯ จะมีโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาทั้งที่จ่ายไฟแล้ว อยู่ระหว่างการก่อสร้างและขอใบอนุญาตขายไฟ เพิ่มขึ้นเป็น 80 เมกะวัตต์ และมีเป้าหมายจะเติบโตเพิ่มเป็น 150 เมกะวัตต์ในปีหน้า"
ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน กล่าวอีกว่า นอกจากรายได้ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Private PPA) จะเติบโตตามแผนงานแล้ว ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของ CHOW ถือว่าไปได้ดีเช่นเดียวกัน โดยล่าสุด บริษัทได้ก่อสร้างและส่งมอบระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับลูกค้าอีกหลายโครงการ เช่นลูกค้าธุรกิจโฟรสเซนฟูดส์ ธุรกิจห้องเย็น ธุรกิจผลิตโช้คอัพ ธุรกิจเลนส์สายตา รวมถึง ธุรกิจของว่างทานเล่น ซึ่งหลังจากนี้จะเห็นธุรกิจพลังงานของ CHOW เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญ