ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีวาระสำคัญคือ การอนุมัติคำขอตั้งงบประมาณของกองทุนส่งเสริม ววน. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 3.11 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย คำของบประมาณเพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน จำนวน 9,083.5386 ล้านบาท และคำของบประมาณเพื่อสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ จำนวน 22,016.4614 ล้านบาท และขอให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ทำงานร่วมกับหน่วยบริหารและจัดการทุน เพื่อพัฒนาแผนงานย่อยรายประเด็นการผลักดันการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพิ่มเติมให้มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้สามารถตอบคำถามคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณ โดย สกสว. ขอโอนย้ายงบประมาณ 279.98 ล้านบาท จากงบประมาณเพื่อสนับสนุนงานมูลฐานไปยังงบประมาณเพื่อสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ เพื่อสนับสนุนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ ขณะที่งบประมาณเสนอตั้งแผนงานแก้ไขปัญหาและตอบสนองภาวะวิกฤติเร่งด่วนของประเทศ 427.68 ล้านบาท จะครอบคลุมทั้งการบริหารจัดการน้ำ โรคระบาดในคนและสัตว์
ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการสร้างความร่วมมือและพัฒนาอุตสาหกรรมไทย (Industrial Collaboration and Development Programme: ICDP) เพื่ออาศัยโครงการจัดซื้อจัดจ้างขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เป็นการซื้อจากต่างประเทศ รวมถึงซื้อผ่านตัวแทนในประเทศเป็นเครื่องมือที่นำมาสู่การสร้างความร่วมมือด้านการลงทุนวิจัยและพัฒนา การถ่ายโอนเทคโนโลยี ความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย เทคโนโลยีเป้าหมาย และพื้นที่เป้าหมายสำคัญที่กำหนดไว้ โดยครอบคลุมโครงการจัดซื้อจัดจ้างขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีมูลค่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป โดยประกาศเป็นสาขาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีเป้าหมายที่จะใช้ในการดำเนินงานในช่วงระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) รวม 7 สาขา ได้แก่ การผลิตวัสดุ ดิจิทัล อวกาศ การแพทย์และสุขภาพ พลังงาน ขนส่งและโลจิสติกส์ ป้องกันประเทศและบรรเทาสาธารณภัย
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้ สกสว. เป็นผู้ประสานกรมบัญชีกลางเพื่อนำรายละเอียดข้อเสนอมาตรการในส่วนของหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและกระบวนการ ไปเป็นข้อมูลประกอบการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับเสนอให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้ กสว. ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการนโยบาย ICDP และ สกสว. ทำหน้าที่เป็นสำนักงานบริหารจัดการ ICDP โดยมีผู้เชี่ยวชาญเป็นทีมที่ปรึกษารายโครงการ รวมถึงเห็นชอบให้ สกสว. เสนอมาตรการดังกล่าวต่อสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ และเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้ความเห็นชอบและมีมติในการดำเนินการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป