ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลายคนคงจะได้เห็นภาพทั้งสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและดอนเมืองที่แน่นขนัดไปด้วยกองทัพนักเดินทางอย่างคับคั่ง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยกำลังเริ่มฟื้นตัวอย่างจริงจัง และปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักเดินทางชาวต่างชาติที่หนีหนาวกันมาในช่วงนี้ก็คือเกาะกลางทะเลอันดามันที่สวยงามอย่างจังหวัดภูเก็ตนั่นเอง
ภูเก็ตมีพื้นที่มากกว่า 500 ตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับโลก ทั้งหาดทรายขาวที่ทอดยาวโอบล้อมเกาะ น้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์สะท้อนไอแดดเป็นประกายสวยจับใจ ตลอดจนเกาะแก่งและแนวปะการังต่าง ๆ โดยเฉพาะความพร้อมด้านธุรกิจโรงแรมรีสอร์ตชั้นนำ บริการอาหารและเครื่องดื่มหลากรูปแบบ ตั้งแต่ร้านอาหารระดับมิชลินไปจนถึงสตรีทฟู้ดพื้นถิ่นที่ราคาเป็นมิตรกับคนทุกระดับ ซึ่งทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองตากอากาศที่สมบูรณ์แบบ และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือน "ไข่มุกแห่งอันดามัน" กันอย่างไม่ขาดสาย
"นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินทางมาภูเก็ต แต่ก็รู้ทันทีว่าที่นี่คือสถานที่เพื่อการพักผ่อนที่ดีที่สุดของเซาธ์อีสต์เอเชีย ทั้งอาหาร ชายหาด ทุกอย่างดูดีไปหมด บอกไม่ถูกเลยว่าชอบตรงส่วนไหนมากกว่ากัน ถ้าจะให้ผมชวนเพื่อน ๆ ที่ประเทศของผมมาเที่ยวที่นี่ ผมคงจะบอกสั้น ๆ ว่า ภูเก็ตเป็นสถานที่ ๆ ทำให้คุณผ่อนคลายได้จริง ๆ ผมคิดว่านี่เป็นคำนิยามของภูเก็ตที่ชัดเจนที่สุดครับ" พอล เต็ง หนุ่มวัย 16 ปี นักกีฬาเรือใบมัลติฮัลล์ทีม ZOE จากประเทศจีน กล่าว
แน่นอนว่า ด้วยสภาพอากาศที่ดีเกือบตลอดทั้งปี จึงทำให้ภูเก็ตโด่งดังในการเป็นฮับกีฬาทางน้ำที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเอเชีย โดยเฉพาะกีฬาเรือใบ ซึ่งภูเก็ตถือเป็น "บ้าน" ของอีเวนต์การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าซึ่งเป็นรายการแข่งเรือใบที่มีชื่อเสียงระดับโลก หนึ่งในงานแข่งขันเรือใบระดับนานาชาติซึ่งได้รับการยกย่องสูงสุดในเอเชียมานานกว่า 30 ปี
ตลอดระยะเวลาการจัดงานกว่า 3 ทศวรรษ นอกจากทำให้นานาประเทศได้ตระหนักว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของกีฬาเรือใบแล้ว ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้ายังช่วยให้ธุรกิจเรือใบและการท่องเที่ยวทางทะเลมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทุกครั้งที่ผ่านมางานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าสามารถดึงดูดทีมเรือใบและเรือยอชท์กว่า 200 ลำ พร้อมนักกีฬาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินับพันคนจากทั่วโลกมาที่ภูเก็ตประจำทุกปี ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนในท้องถิ่นอย่างมหาศาล ทำให้เกิดเงินสะพัดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ตหลายร้อยล้านบาทตลอดสัปดาห์ของการจัดงาน ทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ตให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักกีฬาและนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
เมื่อเร็ว ๆ นี้ "ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 34" ได้หวนกลับมาจัดอีกครั้งหลังจากว่างเว้นไปนานถึง 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้รับเกียรติจากนายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมในพิธีเปิดซึ่งได้กล่าวสุนทรพจน์ไว้ในตอนหนึ่งว่า "จังหวัดภูเก็ตมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ ชายหาดที่มีความหลากหลายและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม รวมไปถึงเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวทางวัฒนธรรมที่สั่งสมหล่อหลอมอยู่ในวิถีชีวิตของผู้คน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้จากอาคารสถานที่ในเมือง วิถีชีวิต อาหาร และการแต่งกาย"
"หลังจากสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดภูเก็ตได้มีความพยายามผลักดันการดำเนินงานเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจบนแนวทางกลยุทธ์ 10 เสาหลัก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ SPORTS TOURISM และกีฬาเรือใบเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่จังหวัดภูเก็ตให้ความสำคัญ ซึ่งจังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพด้วยภูมิประเทศที่สวยงามและเหมาะสม..."
เห็นได้ชัดว่า จังหวัดภูเก็ตตั้งใจผลักดันอุตสาหกรรมเรือใบให้เป็นหนึ่งในตัวชูโรงหลักเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติตามกลยุทธ์ Premium Sports Event Destination of Asia ซึ่งภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าถือเป็นหนึ่งในฟันเฟืองหลักของธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่จะร่วมส่งเสริมวิสัยทัศน์ของจังหวัดภูเก็ตให้ประสบความสำเร็จได้อย่างและยั่งยืน
ฮิวโก โรชา หนุ่มโปรตุเกสวัย 29 หนึ่งในลูกเรือ Pine Pacific ที่เดินทางมาแข่งขันภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 34 เล่าว่า "ผมมาภูเก็ตหลายครั้งแล้วครับ ราว ๆ 5-6 ครั้ง สิ่งแรกที่ผมนึกถึงคืออาหารของที่นี่ โดยเฉพาะเมนูอาหารรสจัดต่าง ๆ ที่เป็นของโปรดของผม เมื่อมาที่นี่คุณจะได้พบสิ่งดี ๆ หลายอย่าง ทั้งผู้คนที่เป็นมิตร อากาศก็ดี และแน่นอน ชายหาดที่สวยมาก ๆ โดยเฉพาะหาดกะตะที่เหมาะกับการเล่นเรือใบมาก ๆ ภูเก็ตเป็นหนึ่งในสถานที่โปรดของผมจริง ๆ ครับ"
สำหรับการแข่งขันภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 34 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-10 ธันวาคม ได้ต้อนรับทัพนักกีฬาจากหลายประเทศทั่วโลก ทั้งไทย ออสเตรเลีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น เอสโตเนีย สิงคโปร์ เดนมาร์ก สวีเดน จีน สหราชอาณาจักร อินเดีย มาเลเซีย ฯลฯ ถือเป็นการประกาศให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและวงการกีฬารู้ว่า ภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวชายทะเลเบอร์ต้นๆของเประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งและก้าวขึ้นเป็น Asia Sailing Destination ของกีฬาเรือใบทั่วโลก ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าการแข่งขันในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไปจะยิ่งใหญ่ตระการมากกว่าเป็นทวีคูณ!