SIMAT ร่วมลงทุนบ.ไอทีของเวียดนาม รับแผนขยายฐานธุรกิจบุกตลาดอาเซียน

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday April 9, 2008 10:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--ไซแมท เทคโนโลยี
SIMAT เดินหน้าขยายฐานธุรกิจรุกตลาดอาเซียน ประเดิมร่วมลงทุนบริษัทชั้นนำด้านไอที โซลูชั่น และกระดาษ Label ของประเทศเวียดนาม โดยเข้าถือหุ้น 40% ใน SINO COMPANY LIMITED และถือหุ้น 40% ใน HIGH RICH TRADING & SERVICE COMPANY LIMITED โดย ไซแมท เลเบล(ประเทศไทย) ระบุประเทศเวียดนามเป็นตลาดที่ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตสูงตามจีดีพีที่ขยายตัวโดดเด่นปีละ 6-7% และอุตสาหกรรมที่ขยายตัวต่อเนื่อง เผยจะใช้งบลงทุนเบื้องต้น 24 ล้านบาท แต่การันตีผลประกอบการเป็นกำไรไม่ต่ำกว่า 11 ล้านบาทในช่วงสองปีแรก มั่นใจทั้ง 2 ฝ่ายช่วยเสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน ช่วยให้เห็นการเติบโตอย่างชัดเจนตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
นายทองคำ มานะศิลปพันธ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SIMAT) เปิดเผยว่าในวันนี้จะร่วมลงนามในสัญญาการเข้าร่วมลงทุนในประเทศเวียดนาม กับ Mr.Nguyen Quyet Thang , President of Sino Company Limited & High Rich Trading & Service Company Limited จากประเทศเวียดนาม โดย SIMAT จะเข้าถือหุ้นใน SINO COMPANY LIMITED (Sino) ร้อยละ 40 ซึ่ง Sino เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศเวียดนามในธุรกิจไอที โซลูชั่น ตั้งอยู่ที่โฮจิมินห์ ซิตี้ ให้บริการจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่และพัฒนาโปรแกรมการใช้งานคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่แบบครบวงจรสำหรับระบบการจัดเก็บข้อมูลในองค์กร
บริษัท ไซแมท เลเบล (ประเทศไทย) จำกัด (เป็นบริษัทย่อยของ SIMAT ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 60% และGrand-Flo Solution Berhad ถือหุ้น 40%) ดำเนินธุรกิจผลิตกระดาษพิมพ์สำหรับฉลากบาร์โค้ดและฉลากอื่นๆ โดยจะเข้าถือหุ้นในHIGH RICH TRADING & SERVICE COMPANY LIMITED (High Rich)ร้อยละ 40 ทั้งนี้ High Richประกอบธุรกิจผลิตฉลากต่างๆ ซึ่งใกล้เคียงกับธุรกิจที่ บริษัท ไซแมท เลเบล (ประเทศไทย) ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน และถือเป็นการดำเนินธุรกิจที่ส่งเสริมกันและกัน ซึ่งทำให้กลุ่มบริษัทสามารถจัดหา solution ให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจร
นายทองคำ กล่าวต่อว่า การลงทุนในบริษัทเวียดนามทั้ง 2 แห่ง จะใช้เงินลงทุนรวมจำนวนไม่เกิน24 ล้านบาท ซึ่งมีเงื่อนไขที่รัดกุมโดยสัญญาที่ทำไว้ระหว่างกันระบุว่า SIMAT จะเข้าไปลงทุนทั้ง 2 บริษัท หลังจากที่มีการตรวจสอบทรัพย์สิน( Deal Diligent)เรียบร้อยและจะต้องมีสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ (Net Tangible Assets- NTA) รวมกันไม่ต่ำกว่า 16 ล้านบาท และในสองปีแรก(2551-2552)หลังจากที่เซ็นสัญญาเข้าลงทุนทั้ง 2 บริษัทจะต้องมีผลประกอบการเป็นกำไรรวมกันไม่ต่ำกว่าปีละ 11 ล้านบาท ส่วนการชำระค่าหุ้นจะแบ่งออกเป็น 3 งวด โดยงวดแรกจะชำระ 14 ล้านบาท หลังจากขั้นตอน Deal Diligent เสร็จสิ้นลง ซึ่งคาดว่าการตรวจสอบดังกล่าวจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3/2551 ส่วนที่เหลืออีก 10 ล้านบาท จะชำระเป็นงวดที่สองในสิ้นปี 2551 และงวดสุดท้ายจะชำระสิ้นปี 2552
เขากล่าวต่อว่าสาเหตุที่เลือกเข้าลงทุนในเวียดนามเป็นประเทศแรก เป็นเพราะเป็นประเทศที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) มีอัตราเติบโตโดดเด่นโดยในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมามีการขยายตัวประมาณ 6-7% ต่อปีซึ่งบ่งชี้ถึงภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และการบริโภคที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ดังนั้นคาดว่าจะทำให้ธุรกิจประเภทไอที โซลูชั่น ขยายตัวตามไปด้วย ประกอบกับปัจจุบันลูกค้าของ SIMAT และลูกค้าของ Grand-Flo Solution Berhad หลายรายได้เริ่มขยายฐานธุรกิจออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนาม จึงถือเป็นการขยายธุรกิจเพื่อรองรับฐานลูกค้าเดิมและเพิ่มช่องทางการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมนอกเหนือจากตลาดในประเทศสำหรับบริษัทฯ ด้วย
"SIMAT เข้าลงทุนในเวียดนามครั้งนี้ถือเป็นการ Synergy ของทั้ง 2 ฝ่าย เพราะแม้จะทำธุรกิจเดียวกัน แต่มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มธุรกิจต่างกัน ทำให้สามารถนำจุดแข็งมาเสริมศักยภาพซึ่งกันและกันได้ โดย Sino จะเชี่ยวชาญในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต อาทิ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ลูกค้าสำคัญได้แก่ ซัมซุง, ฟูจิตสึ และ ซันโย เป็นต้น ในขณะที่ SIMAT เชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีก ดังนั้น จะช่วย Sino ขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น ส่วน High Rich ก็เป็นธุรกิจที่ส่งเสริมกัน"นายทองคำกล่าวในที่สุด
Mr.Derrick Tan, GROUP PRESIDENT & managing director of Grand-Flo Solution Berhad และ ประธานกรรมการ บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด(มหาชน) กล่าวว่าเรามีความยินดีกับก้าวสำคัญของบริษัทที่จะได้เข้าไปลงทุนในตลาดเกิดใหม่แห่งนี้ ซึ่งความต้องการในด้าน tracking solution กำลังขยายตัว โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกระแสการลงทุนทางตรงจากต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากบริษัทข้ามชาติที่เข้าไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ เวียดนามกำลังเป็นแหล่งลงทุนทางเลือกที่มีความน่าดึงดูดมากขึ้นเมื่อเทียบกับจีนที่มีกระแสเงินทุนเข้าไปในปริมาณที่สูงและรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) โทร.02-554-9394 , 085-133-0184

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ