หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ได้สนับสนุนทุนวิจัยพัฒนาพื้นที่ได้จัดมหกรรม "ฟื้นใจเมือง" ด้วย "เศรษฐกิจสร้างสรรค์ บนฐานทุนทางวัฒนธรรมชุมชน" ซึ่งเป็นมหกรรมอันทรงคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรมของพื้นที่ ด้วยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ได้เห็นโอกาสในการใช้ฐานทุนวัฒนธรรมท้องถิ่นในการพัฒนาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่คนในพื้นที่อันจะนำไปสู่การออกแบบกระบวนการมีส่วนร่วมให้เกิดพื้นที่ทางวัฒนธรรมและต่อยอดด้วยการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทางวัฒนธรรมหรือวิสาหกิจเชิงวัฒนธรรมสร้างงานสร้างรายได้ด้วยทุนทางศิลปะและวัฒนธรรม ในการจัดมหกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานกล่าวเปิดงานในวันที่ 17ธันวาคม 2565 เวลา 17.00 - 20.00 น. โดยมีนางสาวฐิติรัตน์ คำพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ร่วมให้การต้อนรับ ณ ศาลเจ้าฉื่อปุยเนี้ยว-ขอเล่งเนี้ยว อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
มหกรรมฟื้นใจเมือง ณ พนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ถือเป็นพื้นที่นำร่องในการจัดมหกรรม โดยในระยะที่ผ่านมาหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)ได้มีการพัฒนาพื้นที่เชิงวัฒนธรรมทั้งหมด 53 พื้นที่โดยมีพื้นที่ที่มีผลการดำเนินงานเป็นรูปธรรมแล้วจำนวน 18 พื้นที่สามารถสร้างผู้ประกอบการเชิงวัฒนธรรมประมาณ 6000 ราย สามารถสร้างผลิตภัณฑ์และการบริการเชิงวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ท้องถิ่นและมีการจัดกิจกรรมเปิดพื้นที่ทางวัฒนธรรมกว่า 757 ครั้ง ซึ่งงานในครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในการพัฒนาพื้นที่ด้วยการนำเสนอทุนทางวัฒนธรรมดั้งเดิมของพนัสนิคมผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบที่สะท้อนวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมของชาวพนัสนิคม จุดเด่นของงานนี้คือ "ดงดอกจักสาน" งานศิลปกรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกกลางภายในงาน โดยแนวคิดการสร้างผลงานชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการนำงานจักสานซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นดั้งเดิมของเมืองพนัสนิคม มาประยุกต์และพัฒนาต่อยอดให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดไฮไลท์หนึ่งของงานเลยก็ว่าได้
นอกเหนือไปจากดงดอกจักสานที่เป็นไฮไลท์ของงานแล้ว ยังมีซุ้มหน้ากากเอ็งกอ ที่เป็นงานศิลปะร่วมสมัยให้ผู้เข้าชมงานได้มาร่วมถ่ายรูปกันที่นี่อีกด้วย เป็นการยืนยันว่าได้มาถึงงานมหกรรมฟื้นใจเมือง ณ พนัสนิคมแล้ว นอกจากผลงานศิลปะร่วมสมัยแล้วกิจกรรมภายในงานมหกรรมฟื้นใจเมืองยังมีอีกมากมายประกอบด้วย
โชว์พิเศษจากคณะเอ็งกอพนัสนิคม?
เอ็งกอเป็นศิลปะการแสดงของชาวจีนที่ได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ร่วม 100 ปี และได้อนุรักษ์ศิลปะนี้มาตลอดหลายช่วงอายุ ปัจจุบัน "เอ็งกอ" ได้กลายเป็นศิลปวัฒนธรรมสำคัญอีกอย่างหนึ่งของชาวอำเภอพนัสนิคม โดยชาวพนัสนิคมได้ร่วมกันจัดตั้ง "เอ็กกอ" ขึ้นมาเพื่อความสามัคคี และการออกกำลังกายเป็นสำคัญ โดยลักษณะเด่นของเอ็งกอ คือ ผู้แสดงทุกคนจะต้องทาหน้าตาอำพรางตน และแต่งกายแบบจอมยุทธ์จีนตามตำนานการขับไล่กบฏของวีรบุรุษเขาเหลียงซาน
และสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของพิธีเปิด คือขบวนพาเหรดคณะเอ็งกอและขบวนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่แต่งตัวร่วมสมัยด้วยเครื่องจักสานจากพนัสนิคม ที่จะสามารถเป็นการสืบสาน ต่อยอด ศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของเมืองพนัสนิคม และยังถือเป็นการสร้างสำนึกรักษ์มรดกสำคัญของท้องถิ่นแก่เยาวชนคนรุ่นใหม่อีกด้วย
กินลมชมหนังกลางแปลง?.
รับชมวีดีโอเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมชุมชนของเมืองพนัสนิคม และภาพยนตร์ต่าง ๆ ในมุมหนังกลางแปลง ณ ศาลเจ้าฉื่อปุยเนี้ยว-ขอเล่งเนี้ยว
การละเล่นทายโจ๊ก?
การละเล่นทายโจ๊ก เป็นการละเล่นพื้นบ้านอันเก่าแก่ของเมืองพนัสนิคม เป็นปริศนาร้อยกรอง ฝึกสมองประลองปัญญากับผู้เล่นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่ในปัจจุบันการละเล่นชนิดนี้ไม่เป็นที่รู้จักและหาชมได้ยาก เนื่องจากถูกทดแทนด้วยวัฒนธรรมต่างชาติและความบันเทิงรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งภายในงานก็ได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อให้ผู้มาเยือนมหกรรมได้ร่วมสนุกและฝึกสมองในวันหยุดยามเย็นต้อนรับลมหนาวไปด้วยกัน
การแสดงอันทรงเกียรติจากศิลปินแห่งชาติ?
การบรรเลงเพลงของวงออเครสต้าโดยคุณสุกรี เจริญสุข พร้อมด้วยการแสดงร่วมกันของศาสตราจารย์ ปรีชา เถาทอง (วาดภาพ), คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ (ขับกลอน), และคุณธนิสร์ ศรีกลิ่นดี (เป่าขลุ่ย) ซึ่งถือได้ว่าเป็นการแสดงอันทรงเกียรติเป็นอย่างยิ่งสำหรับพิธีเปิดมหกรรมในครั้งนี้
นอกจากนี้มหกรรมฟื้นใจเมืองยังมีกิจกรรมฝึกทักษะงานด้านหัตถศิลป์ อาทิ การเขียนหน้าลายเอ็งกอ และการทำฝึกการทำงานจักสาน
และสืบเนื่องจากโครงการวิจัยโดยมหาวิทยาลัยศิลปากร "การพัฒนาย่านวัฒนธรรมชุมชนและการฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณีและสร้างวัฒนธรรมใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี" จึงมีการจัดทำซุ้มพนัสเด็ดเจ็ดย่าน โดยแบ่งออกเป็น 7 ซุ้ม ซึ่งแต่ละซุ้มจะเป็นการแนะนำย่านเด็ดเมืองพนัสที่จะครอบคลุมของเด็ดที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละมิติ ไม่ว่าจะเป็น หอพระพนัส งานจักสาน ร้านของฝาก ร้านอาหารสุดเด็ด กิจกรรมฝึกทักษะการทำตุ๊กตาเอ็งกอ และที่พักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการแนะนำจุดเช็คอินต่าง ๆ ของเมืองพนัสนิคมที่ชวนให้ทุกท่านไปร่วมท่องเที่ยวตามย่านต่าง ๆ
มหกรรมฟื้นใจเมืองในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 17 ธันวาคม 2565 โดย ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก ได้กล่าวว่า งานมหกรรมฟื้นใจเมืองด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์บนฐานทุนทางวัฒนธรรมชุมชนในครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะช่วยยกระดับและฟื้นฟูย่านและทุนวัฒนธรรมดั้งเดิมของชุมชนเอาไว้ โดยมหกรรมในครั้งนี้ถือเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่น ๆ ในการร่วมกันสืบสานและเผยแพร่องค์ความรู้ภูมิปัญญาของผู้คนและพื้นที่และช่วยฟื้นฟูย่านเก่าแก่นี้ให้มีชีวิตชีวาและเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมตัวอย่างไว้ให้คงอยู่คู่กับประเทศต่อไป และยังกล่าวอีกว่า คุณค่าวัฒนธรรมเดิมของพนัสนิคมนั้นเป็นมรดกสำคัญที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวพนัสนิคมที่มีความหลากหลายของสังคมพหุวัฒนธรรม สมควรจะได้รับการฟื้นฟูและสนับสนุนเผยแพร่ให้กับประชาชนได้รับรู้มากยิ่งขึ้นไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักกันแค่เพียงแต่ในพื้นที่เท่านั้น แต่เป็นโครงการสำคัญที่ทุกคนจะได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและฟื้นฟูย่านของตนเองให้เป็นที่รู้จักและกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง เป็นการนำเสนอย่านของตนเองสู่ระดับประเทศหรือแม้กระทั่งในระดับโลกต่อไป