กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--บีวัน คอมมูนิเคชั่นส์
บีเอเอสเอฟ ผู้ผลิตและจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชั้นนำของโลก เดินหน้าสู่ความเป็นหนึ่งด้านอุตสาหกรรมโพลียูรีเธนในเอเชีย เปิดโรงงานผลิตโพลียูรีเธน (polyurethane system house) แห่งที่ 29 ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู พร้อมเริ่มดำเนินการผลิตตั้งแต่ไตรมาสแรก ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป โดยทำการผลิตโพลียูรีเธนตามความต้องการของลูกค้า หรือ tailor-made เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในอุตสาหกรรมรองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ และก่อสร้าง เผยตลาดโพลียูรีเธนในไทยในระยะ 10 ปี ข้างหน้า จะขยายตัวต่อเนื่องที่อัตรา 6 เปอร์เซนต์ต่อปี
นายชอง ปิแอร์ ดานีส์ ประธานบริหารแผนกโพลียูรีเธนของบีเอเอสเอฟ กล่าวว่า “ศูนย์การผลิตโพลีเธนแห่งใหม่ของบีเอสเอฟในประเทศไทย จะเป็นปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่ง ที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบีเอเอสเอฟเพื่อก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมโพลียูรีเธนในภูมิภาคเอเชีย”
การตั้งศูนย์การผลิตโพลียูรีเธนในครั้งนี้ จะให้ประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าของบีเอเอสเอฟด้วยการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพภายใต้ระบบ “เวอร์บุน” ของบีเอเอสเอฟในเอเชีย ขณะนี้ บีเอเอสเอฟ และกลุ่มพันธมิตร กำลังผนึกกำลังกันเพื่อเตรียมเปิดโรงงานผลิตขนาดใหญ่ระดับโลกที่เมืองเกาจง เซี่ยงไฮ้ ในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งจะเป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์โพลียูรีเธนพื้นฐานคือ MDI (diphenylmethane diisocyanate) and TDI (toluene diisocyanate) นอกจากนี้ ยังมีโครงการจัดตั้งศูนย์กลางการผลิตโพลียูรีเธนที่เมืองปูด้ง เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะประกอบไปด้วยโรงงานผลิตโพลียูรีเธนหรือ system house โรงงานผลิต thermoplastic polyurethanes (TPU) และศูนย์วิจัยและพัฒนาทางเทคนิค ส่วนศูนย์การผลิตโพลียูรีเธนที่เปิดใหม่ในประเทศไทยในครั้งนี้ จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับศูนย์วิจัยและพัฒนาทางเทคนิค และเครือข่ายการวิจัยโพลียูรีเธนระดับนานาชาติของบีเอเอสเอฟอีกด้วย
นายชิว เอ็ง ซู รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายโพลียูรีเธน ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของบีเอเอสเอฟกล่าวว่า “ด้วยศักยภาพตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยนับเป็นตลาดที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของบีเอเอสเอฟ เราจะทุ่มเทเพื่อพัฒนาให้ตลาดนี้เป็นกำลังสำคัญที่จะนำบีเอเอสเอฟไปสู่ความเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมต่อไป”
ในระยะเวลาอีก 10 ปี ข้างหน้า ตลาดโพลียูรีเธนในประเทศไทย จะมีการเติบโตที่อัตราประมาณ 6 เปอร์เซนต์ต่อปี ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ขนาดของตลาดโพลียูรีเธนในประเทศไทย คิดเป็นประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ของตลาดโพลียูรีเธนทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในภูมิภาคเอเชีย บีเอเอสเอฟมีศูนย์การผลิตโพลียูรีเธน อยู่ที่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย และจีน นอกจากโครงการปูด้ง เซียงไฮ้แล้ว บีเอเอสเอฟ ยังได้ซื้อกิจการของ system house Foam Enterprises ในสหรัฐอเมริกา และในLagomat ประเทศสวีเดนเมื่อปีพ.ศ. 2547 ด้วย
บีเอเอสเอฟ เป็นผู้ผลิตโพลียูรีเธน โพลียูรีเธนเป็นพลาสติคชนิดที่มีคุณสมบัติที่หลากหลาย สามารถนำไปผลิตเป็นผลิตภัณท์ต่างๆ ได้หลายประเภทโดยปรับให้เหมาะสมกับความต้องการ ผลิตภัณฑ์โพลียูรีเธนเป็นวัสดุการผลิตในอุตสาหกรรมรถยนต์ การผลิตฉนวนกันความร้อนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็น อุตสาหกรรมเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมรองเท้า และเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์กีฬาและสันทนาการต่าง ๆ
บีเอเอสเอฟ เริ่มดำเนินกิจการเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในปี พ.ศ.2509 ปัจจุบัน บีเอเอสเอฟ มีโรงงาน 2 แห่ง คือที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู และระยอง และมีพนักงานกว่า 200 คน ในปี พ.ศ. 2547 ยอดจำหน่ายของบีเอเอสเอฟในประเทศไทยมีมูลค่า 157 ล้านยูโร
บีเอเอสเอฟ บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชั้นนำของโลก เป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ พลาสติค เพอร์ฟอร์มานซ์เคมีภัณฑ์ เคมีภัณฑ์การเกษตร เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม น้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติ สามารถตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมทุกประเภท บริษัทฯ ได้นำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ รวมทั้ง บริหารงานโดยให้ความสำคัญทั้งในด้านความสำเร็จในทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสภาพแวดล้อม และสังคม เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีแก่โลกทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ในปี พ.ศ. 2547 บีเอเอสเอฟ มีพนักงานประมาณ 82,000 คนทั่วโลก มีรายได้กว่า 850,000 ล้านล้านบาท หลักทรัพย์ของบีเอเอสเอฟจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศต่างๆ คือ Frankfurt (BAS) London (BFA), New York (BF), Paris (BA) and Zurich (AN)
ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบีเอเอสเอฟ กรุณาเยี่ยมชม www.basf.com
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
นันทนา หาญทวิชัย หรือ พัทธ์ธีรา คงยิ่ง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท บีวัน คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด
โทร. 02-664-9700 ต่อ 1605, 1603
BASF Aktiengesellschaft
67056 Ludwigshafen
Telefon: +49 621 60-0
http://www.basf.de
Corporate Media Relations
Telefon: +49 621 60-20916
Telefax: +49 621 60-92693
presse.kontakt@basf-ag.de--จบ--