บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) ส่งสัญญาณบวกหลังรัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการโควิด พร้อมเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.นี้ มั่นใจลูกค้าจีนกลับมาใช้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) คึกคัก "นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร" ประเมินทิศทางธุรกิจปี 2566 ขยายตัวโดดเด่น ทั้งรายได้และกำไร อานิสงส์ผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) เข้าใช้บริการต่อเนื่อง รวมถึงมีแผนขยายศูนย์บริการทางการแพทย์เพิ่มขึ้น ขณะที่รพ.คูน เสริมทัพ สนับสนุนรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และเตรียมเปิดประเทศโดยเริ่มวันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เนื่องจากจะได้รับประโยชน์จากการที่ลูกค้าชาวจีนที่จะกลับมาใช้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) ซึ่งจะทำให้จำนวนลูกค้า IVF เพิ่มขึ้น และช่วยสนับสนุนให้การเติบโตรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าลูกค้ามาใช้บริการจำนวน 300 คู่ จากปี 2565 มีลูกค้าใช้บริการ 100 คู่
"การที่รัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ทำให้คนจีนเดินทางออกท่องเที่ยวต่างประเทศได้ ถือว่าเป็นผลดีกับ EKH เนื่องจากเชื่อว่าลูกค้าชาวจีนน่าจะกลับมาใช้บริการศูนย์ IVF อย่างคึกคัก ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของ EKH มีแนวโน้มดียิ่งขึ้น และคาดว่าจะสามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ในช่วงกลางปี 2566 หรือปลายไตรมาส 2/2566 จึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมธุรกิจ ซึ่งมีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่น" นายแพทย์อำนาจกล่าว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจปี 2566 เชื่อว่ามีโอกาสขยายตัวได้เป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร เนื่องจากยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ที่มาจากโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) รวมทั้งมีแผนขยายศูนย์บริการทางการแพทย์ต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยเฉพาะทางที่มีรายได้ต่อหัวที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และสามารถรองรับการเข้าใช้บริการของประชาชนได้ทั่วถึง
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนขยายศูนย์ไตเทียม, ขยายเตียงบริการฟอกเลือด เพิ่มอีก 14 เตียง รวมเป็น 24 เตียง รวมถึงมีแผนขยายเตียงเพิ่มจากเดิม 142 เตียงเป็น 200 เตียง ส่วนการเปิดให้บริการโรงพยาบาลคูน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ช่วยสนับสนุนให้การเติบโตรายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ทำให้มั่นใจรายได้ปี 2566 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%