"ฟูจิฟิล์ม เฮลท์แคร์ เอเชีย แปซิฟิก" เผยไลน์อัพโซลูชัน Healthcare ล้ำสมัย เดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมการแพทย์เพื่อก้าวสู่โลกแห่งอนาคตอย่างบริบูรณ์ ภายใต้แนวคิด "Bridging the Future of Healthcare"
พร้อมยกระดับความแม่นยำในการวินิจฉัยและสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยระบบถ่ายภาพเอกซเรย์ดิจิทัลครบวงจร
บริษัท ฟูจิฟิล์ม เฮลท์แคร์ เอเชีย แปซิฟิก จำกัด ผู้ให้บริการ Total Healthcare Solution ชั้นนำระดับโลก เผยโฉมไลน์อัพโซลูชันดิจิทัลทางการแพทย์ครบวงจรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีการประมวลภาพขั้นสูงและ AI พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือสังคมและเชื่อมต่อบุคลากรทางการแพทย์กับโลกแห่งอนาคตภายใต้แนวคิด Bridging the Future of Healthcare ด้วยการนำไลน์อัพโซลูชันระบบถ่ายภาพเอกซเรย์ดิจิทัลที่ครบครันจากฟูจิฟิล์ม เฮลท์แคร์ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และความสะดวกสบายในการวินิจฉัยทางการแพทย์ โดยนวัตกรรมอันล้ำสมัยนี้ เป็นผลจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพอันยาวนานกว่า 80 ปีของฟูจิฟิล์ม นำมาต่อยอดรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค Digital Transformation โดยสมบูรณ์ ฟูจิฟิล์ม ประกาศพร้อมเดินหน้าสานต่อปณิธานและความมุ่งมั่นขององค์กร ที่จะไม่หยุดสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาทางสังคมและช่วยสร้างสังคมที่ยั่งยืน อันนำไปสู่สุขภาวะที่ดีขึ้นของผู้คนในโลก ภายใต้แคมเปญระดับโลก "NEVER STOP"
นาย เอสนุ ฮาลิม Senior Clinical Marketing Manager บริษัท ฟูจิฟิล์ม เฮลท์แคร์ เอเชีย แปซิฟิก จำกัด กล่าวว่า "ฟูจิฟิล์ม ในฐานะบริษัทชั้นนำด้าน Total Healthcare Solution เริ่มต้นธุรกิจการแพทย์และสุขภาพมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1936 จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ฟิล์มเอกซเรย์ที่เป็นที่ยอมรับจากวงการแพทย์ทั่วโลก ต่อมาในปี ค.ศ.1983 ฟูจิฟิล์ม เป็นบริษัทแรกของโลกที่นำเสนอระบบการถ่ายภาพเพื่อการวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัล หรือที่เรียกว่า Fuji Computed Radiography (FCR) และนับจากนั้นจนถึงปี ค.ศ.2000 เป็นต้นมา เทคโนโลยีเกี่ยวกับภาพถ่ายดิจิทัลทางการแพทย์ ก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการตรวจวินิจฉัยอาการได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นการยกระดับวงการแพทย์และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนทั่วโลก ฟูจิฟิล์ม จึงมุ่งบุกเบิกนวัตกรรมเพื่ออนาคตของวงการแพทย์ โดยนับจากการประกาศควบรวมกิจการของ Hitachi Healthcare ในปี 2021 และเปลี่ยนชื่อเป็น Fujifilm Healthcare Corporation ธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพของฟูจิฟิล์ม ก็แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม และเพื่อเป็นการตอกย้ำการการรุกตลาด Healthcare ของฟูจิฟิล์มในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มธุรกิจทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์ม ได้แยกบริษัทออกมาเป็น ฟูจิฟิล์ม เฮลท์แคร์ เอเชีย แปซิฟิก เมื่อเดือนตุลาคม 2022 ที่ผ่านมา เพื่อเดินหน้าขยายไลน์อัพโซลูชันที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ทั้งเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัล, เทคโนโลยี MRI และ CT Scan, เครื่องอัลตราซาวด์, กล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหาร, เครื่องแมมโมแกรมตรวจเอกซเรย์เต้านม รวมไปถึงระบบไอทีทางการแพทย์ Synapse ที่ขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์ม AI ทรงพลังที่ฟูจิฟิล์มพัฒนาขึ้นเองอย่าง REiLI เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ในเอเชีย แปซิฟิกให้สามารถมอบการวินิจฉัยที่แม่นยำและให้การรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงทีต่อไป"
หนึ่งในนวัตกรรมที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของฟูจิฟิล์ม ได้แก่ เครื่องเอกซเรย์แบบพกพา FDR Xair ที่เข้ามาตอบโจทย์การตรวจคัดกรองโรคนอกสถานพยาบาลของแพทย์ ด้วยน้ำหนักเพียง 3.5 กิโลกรัม สามารถพกพาและใช้งานได้ในหลายพื้นที่ เช่น ใช้ในการออกเยี่ยมผู้ป่วยในชุมชนห่างไกลของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เป็นต้น "FDR Xair เป็นเครื่องเอกซเรย์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก แต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และออกแบบมาเพื่อการใช้งานนอกสถานที่อย่างแท้จริง เมื่อใช้งานร่วมกับเครื่องฉายรังสีดิจิทัลอย่าง FDR-D EVO II ที่มีเทคโนโลยีการประมวลผลภาพขั้นสูงด้วยระบบ Virtual Grid เพื่อให้ได้ภาพคมชัดสูงสุด และด้วย REiLI แพลตฟอร์ม AI ที่คิดค้นโดยฟูจิฟิล์ม ผู้ใช้งานจะสามารถสร้างขั้นตอนงานในการวินิจฉัย (Workflow) ที่สะดวกสบายของทั้งองค์กรได้อย่างเป็นระบบ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับคนไข้ทุกคน แม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกลก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมา ฟูจิฟิล์ม ประสบความสำเร็จในการนำโซลูชันเหล่านี้ มาคัดกรองผู้ป่วยวัณโรคในพื้นที่ห่างไกลในประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และบังกลาเทศ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถทราบผลได้อย่างรวดเร็วและรับการรักษาได้ต่อไป" นาย เอสนุ ฮาลิม กล่าว
อีกหนึ่งนวัตกรรมที่เข้ามายกระดับการตรวจวินิจฉัยอาการ ได้แก่ FDR Cross เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลแบบเคลื่อนย้ายได้ สำหรับการถ่ายภาพเอกซเรย์คุณภาพสูง มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ด้วยขนาดที่เล็กลงอย่างมากและน้ำหนักเพียง 90 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับเครื่องเอกซเรย์ทั่วไปที่หนักถึง 500 กิโลกรัม จึงสามารถเคลื่อนย้ายไปยังห้องและหน่วยต่าง ๆ ในสถานพยาบาลได้อย่างสะดวกสบาย และมีฟังก์ชันสำคัญคือการทำงานแบบ 2 in 1 ที่เป็นทั้งเครื่องเอกซเรย์แบบ Fluoroscopy สำหรับตรวจอวัยวะภายในร่างกายแบบเรียลไทม์ และเป็นเครื่องเอกซเรย์ Radiography ดิจิทัลในหนึ่งเดียว ที่มาพร้อมระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบไร้สายที่ส่งภาพถ่ายเข้าสู่ระบบได้อย่างรวดเร็ว "ล่าสุดโรงพยาบาลในฮ่องกงได้เริ่มใช้งาน FDR Cross และพบว่าช่วยลดภาระงานของทีมแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ถ่ายภาพเอกซเรย์ได้ถึงสองรูปแบบในหนึ่งเดียว พร้อมกับดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานที่สะดวกสบาย คล่องตัวของบุคลากรทางการแพทย์ เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัล FDR Cross ของฟูจิฟิล์ม จึงเป็นอีกหนึ่งโซลูชันที่ช่วยตอกย้ำการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาทางสังคมอย่างแท้จริงของฟูจิฟิล์ม" นาย เอสนุ ฮาลิม กล่าวเสริม
ภายใต้พันธกิจในการแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาทางสังคมและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน ฟูจิฟิล์ม มุ่งดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับแผนการส่งเสริมคุณค่าที่ยั่งยืนในปี 2030 ขององค์กร เพื่อช่วยปรับปรุงการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ทั่วโลก พร้อมช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ "ฟูจิฟิล์มพร้อมทำงานร่วมกับภาครัฐและพันธมิตรเพื่อเดินหน้าจัดหาโซลูชันในการดูแลสุขภาพของผู้คนในสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ๆ กลับคืนสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แคมเปญ NEVER STOP ของเรา" นาย เอสนุ ฮาลิม กล่าวสรุป