กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--กบข.
กบข.เผยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปี 40 สร้างผลตอบแทนให้กับสมาชิกกว่า 1.5 แสนล้านบาท เน้นกระจายการลงทุน-ยึดหลักความมั่นคงของเงินต้น สอดคล้องนโยบายการบริหารเงินของกองทุนบำนาญระดับโลก
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยในโอกาสที่ กบข. ดำเนินงานครบรอบการดำเนินงาน 11 ปี ในวันที่ 27 มีนาคมว่าการเติบโตของกองทุนสู่การเป็นเสาหลักในการพัฒนาตลาดเงิน ตลาดทุนมาอย่างต่อเนื่องนั้น เนื่องจาก กบข. มีกรอบในการปฏิบัติงานที่ดี มีการบริหารกองทุนที่มีความโปร่งใส และยึดหลักธรรมาภิบาลในการลงทุนมาโดยตลอด อีกทั้งนโยบายในการลงทุนยังมีการจัดประ เภทสินทรัพย์การลงทุนอย่างเหมาะสมและปรับเปลี่ยนให้ตามสภาวะเศรษฐกิจเสมอ ซึ่งทำให้ กบข. มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
“ ในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว กบข. มีสินทรัพย์กว่า 1.1 แสนล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันสินทรัพย์เพิ่มขึ้นมากกว่า 3.8 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นการเติบโตของกองทุนอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เพราะเฉลี่ยต่อปี กบข. จะมีเงินเข้ากองทุนที่เป็นเงินสะสมของสมาชิกเฉลี่ยประมาณปีละ 1.8 หมื่นล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าผลตอบแทนที่กองทุนสร้างผลประโยชน์ได้ตั้งแต่ที่จัดตั้งกองทุนที่ผ่านมาเฉลี่ยเท่ากับ 1.5 แสนล้านบาท” นายวิสิฐกล่าว
นายวิสิฐ กล่าวว่าในโอกาสที่ กบข.ดำเนินงานเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 แม้จะมีการแก้ไข พระราชบัญญัติ กบข. เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถนำเงินไปลงทุนต่างประเทศได้ในสัดส่วนถึงร้อยละ 25 แต่นโยบายของ กบข. ยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศเป็นหลัก สอดคล้องกับหลักการจัดตั้งกบข. ที่พยายามเป็นเสาหลักในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ ตลาดทุนไทย และที่สำคัญ กบข.ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของเงินต้นเป็นอันดับแรก และอันดับสองคือผลตอบแทนจากการลงทุน เนื่องจากเป็นเงินออมของข้าราชการสมาชิกเพื่อยามเกษียณ
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในต่างประเทศ กบข. ยังคงติดตามสถานการณ์สภาวะเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับสถาบันการเงินและเศรษฐกิจโลก ที่ทำให้ตลาดทุนและตลาดเงินมีความผันผวน ดังนั้น กบข. ยังไม่เร่งภาคการลงทุนต่างประเทศในขณะนี้ และมีนโยบายเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงของค่าเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เพราะอัตราค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์ยังมีความผันผวน