กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--กทม.
กทม. จัดงานสงกรานต์ประจำปี 51 ชวนประชาชนสักการะพระพุทธสิหิงค์เพื่อความเป็นสิริมงคล ระหว่างวันที่ 12-15 เม.ย.51 เวลา 08.00—20.00 น. และร่วมทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ 226 รูป รดน้ำขอพระผู้สูงอายุในวันที่ 13 เม.ย. 51 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม.
ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครกำหนดจัดงานเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2551 ระหว่างวันที่ 12—15 เม.ย. 51 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. เน้นกิจกรรมสืบสานขนบธรรมเนียม ประเพณีและมรดกทางวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม โดยวันที่ 12 เม.ย. 51 อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ จากพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และแห่อัญเชิญให้ประชาชนสักการะและสรงน้ำ รวม 3 จุด ได้แก่ บริเวณวงเวียนใหญ่ บริเวณ สวนสันติชัยปราการ ถ.พระอาทิตย์ บริเวณวัดชนะสงคราม ถ.จักรพงษ์ มาประดิษฐาน ณ ลานคนเมือง ให้ประชาชนสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ถึงวันที่ 15 เม.ย. 51 ระหว่างเวลา 08.00—20.00 น.
สำหรับขบวนอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ เริ่มเคลื่อนออกจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เวลา 08.00 น. เข้าสู่ ถ.หน้าพระธาตุ ไปยัง ถ.พระอาทิตย์ สวนสันติชัยปราการ ถ.พระสุเมรุ ถ.จักรพงษ์ วัดชนะสงคราม เข้า ถ.ราชดำเนินกลาง ถ.ดินสอ เสาชิงช้า ถ.ตีทอง ศาลาเฉลิมกรุง ถ.จักรวรรดิ ขึ้นสะพานพระปกเกล้า ถ.ประชาธิปก สี่แยกบ้านแขก ถึงวงเวียนใหญ่ เวลาประมาณ 10.30 น. จากนั้นเคลื่อนขบวนจากวงเวียนใหญ่ เข้า ถ.อินทรพิทักษ์ สี่แยกท่าพระ ถ.จรัญสนิทวงศ์ สามแยกไฟฉาย แยกบรมราชชนนี ข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เข้า ถ.เจ้าฟ้า ถ.พระอาทิตย์ ถึงสวนสันติชัยปราการ เวลาประมาณ 13.15 น. จากนั้นเคลื่อนออกจากสวนสันติชัยปราการ ผ่านแยกบางลำพู ถ.จักรพงษ์ ถึงหน้าวัดชนะสงคราม ถ.จักรพงษ์ เวลาประมาณ 14.00 น. ออกจากถนนจักรพงษ์ เข้า ถ.ราชดำเนินกลาง สี่แยกคอกวัว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ดินสอ และสิ้นสุดขบวน ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. เวลา 15.00 น. จากนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ขึ้นประดิษฐานบนมณฑปให้ประชาชนได้สักการะ
ส่วนในวันที่ 13 เม.ย. 51 ซึ่งเป็นวันมหาสงกรานต์ จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 226 รูป และพระราชาคณะ 10 รูป จากนั้นจัดพิธีรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. นอกจากนี้ขอความร่วมมือประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสุภาพ ส่วนผู้ขับขี่ยานพาหนะให้ระมัดระวังเพื่อเป็นการช่วยกันลดอุบัติเหตุ