นับเป็นอีกครั้งของความยินดีและภูมิใจของแบรนด์ไทยขวัญใจเหล่าราชนิกุลและรอยัลลิสต์จากต่างประเทศอย่าง L'Astelle ที่ล่าสุดได้สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง เมื่อ Emma Thynn, Marchioness of Bath สุภาพสตรีผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษที่ได้รับตำแหน่ง Marchioness ได้สวมใส่ชุดราตรีผ้าทูลสีแดงสุดคลาสสิค เลเยอร์ 3 ชั้น ปักประดับคริสตัลและเพชรจาก Swarovski โดยงานปักทั้งหมดปักโดยช่างฝีมือจากโรงปัก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งการได้รับเลือกชุดไปสวมใส่โดยราชนิกุลจากประเทศอังกฤษในครั้งนี้ สร้างความปลื้มปิติให้กับแบรนด์ L'Astelle และ วงการแฟชั่นไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก และไม่บ่อยครั้งนัก ที่เหล่าราชนิกุลจากต่างประเทศจะสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์อื่นๆ นอกเหนือจากแบรนด์ที่คุ้นเคย ซึ่งในครั้งนี้ L'Astelle ก็สามารถทำได้อีกครั้ง
ในโอกาสนี้ Emma Thynn, Marchioness of Bath ได้สวมใส่ชุดของ L'Astelle เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาล Christmas ที่ผ่านมา ณ ปราสาท Longleat ประเทศอังกฤษ โดยถือว่าเป็นอีกครั้งของแบรนด์ L'Astelle ที่ราชนิกุลจากประเทศอังกฤษเลือกชุดของแบรนด์มาสวมใส่ โดยก่อนหน้านี้ L'Astelle ได้รับการเลือกสรรไปสวมใส่โดย Lady Kitty Spencer หลานสาวของเจ้าหญิง Diana มาแล้ว รวมไปถึงเหล่าเจ้าหญิงอีกมากมายจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Donna Bianca Brandolini จากอิตาลี Princess Maria Olympia of Greece จากกรีซ และเจ้าหญิง Kezang Choden Wangchuck จากประเทศภูฏาน ที่ได้เสด็จมาร่วมชมแฟชั่นโชว์คอลเลคชั่นล่าสุดของ L'Astelle เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาอีกด้วย
Emma Thynn, Marchioness of Bath เป็นสุภาพสตรีผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ ที่ได้รับตำแหน่ง Marchioness หลังจากที่สามีของเธอ Ceawlin Thynn เป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง The 8th Marquess of Bath ต่อจากบิดา โดย Ceawlin Thynn 8th Marquess of Bath เป็นบุตรคนที่ 2 ของ Alexander Thynn, the 7th Marquess of Bath หรือที่เรารู้จักกันในนาม Lord Bath นอกจากนี้ Emma Thynn, Marchioness of Bath ยังเป็น Billionaire oil Heiress และ London Socialite และดำรงตำแหน่งเป็น Contributing Editor ให้กับ British Vogue, Emma's Kitchen Longleat, Longleat - The Uk #1 Safari Park, Chopard และ British Fashion Council รวมไปถึง การรับหน้าที่เป็นแอมบาสเดอร์ให้กับ Tusk Organization อีกด้วย
หลังจากที่ L'Astelle ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นที่ 2 ที่มีชื่อว่า ทราแว๊กเซ่ เลอ ตองค์ (Traversee le temps) ที่นำเสนอแรงบันดาลใจจากบทกวีอันงดงามของ "ลินดา ปาสแตน" (Linda Pastan) และความงดงามเหนือกาลเวลา เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกาที่ผ่านมา ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีเกินคาด และตอกย้ำว่า L'Astelle แบรนด์สัญชาติไทยแบรนด์นี้จะสามารถเดินตามเป้าหมายและได้รับการยอมรับ พร้อมทั้งขนานนามจากสถาบัน Chamber Syndicate de la Haute Couture Parisienne ภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมฝรั่งเศสว่า แบรนด์ไทยแบรนด์นี้จะเป็นหนึ่งใน Haute Couture list ในไม่ช้าอย่างแน่นอน
เครดิตรูป: emmathynn, lastelle