กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น
ในช่วงวันหยุดเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ หน่วยงานต่างๆ ได้มีการรณรงค์ ให้ประชาชนหันมาใส่ใจเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนกันมากยิ่งขึ้น แต่ทุกหน่วยงานจะเน้นแต่เพียง ความปลอดภัย ของผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่แทบทั้งสิ้น มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ให้ความสำคัญและรณรงค์อย่างจริงจัง เกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้โดยสารที่เป็นเด็ก ทั้งที่สาเหตุการเสียชีวิตของเด็กไทยในอันดับต้นๆ มาจากอุบัติเหตุรถยนต์ โดยปราศจากการป้องกันที่ถูกวิธี
เพื่อเป็นการรณรงค์และสนับสนุนให้พ่อแม่ผู้ปกครอง มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการโดยสารรถยนต์ของบุตรหลานมากขึ้น ปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือคุณบุ๋ม นางสาวไทยปี 2543 ได้เปิดเผยเคล็ดลับและข้อมูลในการดูแลลูกน้อยยามเดินทางด้วยการโดยสารรถยนต์ ในฐานะคุณแม่ผู้ใส่ใจ ความปลอดภัยของลูกน้อย หรือ ด.ญ. อันดามัน พิพิธสุขสันต์ ว่า “เรื่องของความปลอดภัยนั้นหมายถึงชีวิตของลูกเรา เพราะสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ภายในเสี้ยววินาที ถ้าฝึกลูกให้นั่งในเก้าอี้นิรภัยเป็นประจำจนเป็นนิสัย ก็จะช่วยได้มากเรื่องความปลอดภัย ทั้งของตัวเด็กเองและของคนขับรถ ผู้ปกครองควรใส่ใจเรื่องเก้าอี้นิรภัยสำหรับเด็กขณะโดยสารในรถยนต์ เพราะเด็กไม่สามารถได้รับการปกป้องที่เหมาะสมจาก เข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่ หากเกิดอะไรขึ้นจะต้องเสียใจและโทษตัวเองไปตลอดชีวิต”
นักแสดงพิธีกรสาวชื่อดังยังย้ำอีกว่า “สิ่งสำคัญคือการฝึกให้เป็นนิสัยตั้งแต่เด็ก คุ้มค่าสำหรับความปลอดภัยของลูก สำหรับน้องอันดามัน บุ๋มได้ฝึกเขาตั้งแต่เด็ก จนเดี๋ยวนี้เวลาเขาขึ้นรถก็จะรู้และไปนั่งที่เก้าอี้นิรภัยได้เอง โดยที่เราไม่ต้องบอก ท้ายนี้ ก็อยากจะให้ประเทศไทยมีการตื่นตัวและใส่ใจกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น เป็นต้นว่า มีรถยนต์ที่ติดตั้งเก้าอี้นิรภัยของเด็กพร้อมออกมาจากโรงงาน”
วิธีการโดยสารรถยนต์ที่ปลอดภัยของเด็กที่มีอายุระหว่าง 0 — 10 ปีนั้น ต้องใช้เก้าอี้นิรภัยสำหรับเด็ก (Child Seat) ซึ่งติดตั้งไว้ที่เบาะหลังของรถยนต์เท่านั้น ซึ่งเป็นวิธีการโดยสารรถยนต์ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็ก และถ้าหากไม่มีเก้าอี้นิรภัยฯ ต้องให้เด็กโดยสารที่เฉพาะเบาะหลัง ค่อนไปทางใดทางหนึ่ง (ซ้ายหรือขวา) เท่านั้น ห้ามให้ผู้โดยสารเด็กนั่งเก้าอี้ด้านหน้า หรือคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่โดยเด็ดขาด เนื่องจากเด็กอาจได้รับบาดเจ็บจากถุงลมนิรภัย หรือหลุดลอยออกไปนอกตัวรถได้ เนื่องจากอุปกรณ์นิรภัยที่ออกแบบมากับตัวรถนั้นเหมาะสำหรับสรีระของผู้ใหญ่เท่านั้น อุปกรณ์เหล่านี้ไม่สามารถป้องกันผู้โดยสารเด็กซึ่งมีสรีระที่ต่างไปได้และจะเป็นอันตรายต่อเด็กถึงชีวิตเมื่อเกิดอุบัติเหตุรุนแรง
จากผลสำรวจของโครงการ “คุณหนูปลอดภัยในยานยนต์” ในปี 2548 - 2549 ซึ่งจัดทำโดย บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า ยังคงมีความเข้าใจผิด เกี่ยวกับการโดยสารรถยนต์อย่างปลอดภัยสำหรับเด็กอยู่ โดยเกือบร้อยละ 70 เห็นว่าควรคาดเข็มขัดนิรภัยที่ติดตั้ง
มากับรถให้กับเด็ก ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เนื่องจากเข็มขัดนิรภัยนั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับสรีระของเด็กเล็ก เมื่อเกิดอุบัติเหตุ จึงไม่สามารถปกป้องเด็กจากการถูกกระแทก หรือจากการหลุดลอยออกนอกตัวรถ และเป็นอันตรายอย่างมากต่อสรีระและชีวิตของเด็กได้ ขณะที่กว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม ยังคงเห็นว่า การให้เด็กเล็กนั่งทางด้านหน้าของรถยนต์เป็นสิ่งที่ทำได้ ทั้งที่ตามหลักการที่ถูกต้องนั้น หากไม่มีการติดตั้งที่นั่งนิรภัยในรถยนต์สำหรับเด็ก ผู้ปกครองควรจะให้เด็กเล็กนั่งด้านหลังและค่อนไปทางด้านใดด้านหนึ่งเสมอ ซึ่งข้อปฏิบัติเหล่านี้ สามารถช่วยลดอัตราความเสี่ยงในการเสียชีวิตของเด็กหากเกิดอุบัติเหตุได้บ้าง แต่วิธีที่ควรปฏิบัติและปลอดภัยที่สุดนั้น ต้องให้เด็กเล็กนั่งในที่นั่งนิรภัยของเด็กทุกครั้งที่มีการเดินทาง
ผู้ที่สนใจรายละเอียดของการโดยสารรถยนต์อย่างปลอดภัยของเด็กเล็กนั้น สามารถรับฟังรายละเอียดได้จาก หมายเลขโทรศัพท์ สายด่วนคุณหนูปลอดภัยในยานยนต์ได้ที่ 0-2791-4884
โครงการ “คุณหนูปลอดภัยในยานยนต์”
โดย เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย และ เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย
เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น มีนโยบายหลักประการหนึ่ง ในการเน้นเรื่องความปลอดภัยในการโดยสารรถยนต์ สำหรับเด็ก และได้เริ่มดำเนินกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2540
เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย และเชฟโรเลต เซลล์ ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะสืบทอดนโยบายหลักนี้ จึงได้เริ่ม โครงการ “คุณหนูปลอดภัยในยานยนต์” ขึ้นในปี2543 โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากหน่วยงานราชการ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ สถาบันการแพทย์ด้านอุบัติเหตุ และสาธารณภัย กองบังคับการตำรวจจราจร บริษัทฯ หวังว่าโครงการ “คุณหนูปลอดภัยในยานยนต์” นี้ จะมีส่วนทำให้เราทุกคนตระหนักเรื่องความปลอดภัยในการโดยสารรถยนต์ของเด็กมากขึ้น เพื่อประโยชน์ ของสังคมโดยรวม
เนื่องจากเด็กมีความต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษในระหว่างเดินทางโดยรถยนต์ ในปัจจุบันจึงมีการออกแบบ เก้าอี้นั่งสำหรับเด็กสี่แบบด้วยกัน เพื่อให้เหมาะสำหรับเด็กที่มีวัยและน้ำหนักตัวต่างๆ กัน ได้แก่ เปลเด็กอ่อนสำหรับรถยนต์ (infant car bed) สำหรับเด็กแรกเกิด ที่นั่งเด็กชนิดนั่งหันไปทางหลังรถ (rear-facing infant seat) สำหรับเด็กแรกเกิดถึง 1 ปี ที่นั่งเด็กชนิดนั่งหันไปทางหน้ารถ (forward-facing child seat) สำหรับเด็กอายุ 1-5 ปี และที่นั่งเสริม (booster seat) สำหรับเด็กอายุ 5-10 ปี
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
คุณชาติชาย สุวรรณเสวก
กรรมการอำนวยการบริหาร
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ประจำภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2791-3400 แฟกซ์. 0-2937-0171
อีเมล: chartchai.suwanasevok@gm.com