“เครือข่ายมหาวิทยาลัยขานรับร่วมเปิดขอบฟ้าคุณธรรม จริยธรรม”

ข่าวทั่วไป Thursday April 10, 2008 14:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--
แม้ว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะไม่ได้ประกาศนโยบายรัฐบาลที่เน้นหนักในด้านการพัฒนายกระดับคุณธรรม จริยธรรม ในสังคมไทยมากนักอย่างไรก็ตาม กระแสการขับเคลื่ีอนคุณธรรม จริยธรรม ยังคงดำเนินต่อไปผ่านหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นหัวหอกสำคัญในการประกาศให้การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เป็นวาระแห่งชาติมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีภารกิจเรื่องการปลูกฝังและผลักดันให้สังคมไทยเป็นสังคมอยู่ดีมีสุข ล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ ศูนย์คุณธรรม ร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัย และสถาบันอุดมศึกษา ลงนามความร่วมมือในการจัดทำโครงการ "เปิดขอบฟ้าคุณธรรม จริยธรรม"
รศ.ดร.พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์ คณบดีคณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะรองประธานกรรมการอำนวยการโครงการ เปิดขอบฟ้าคุณธรรมจริยธรรม กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า คุณธรรมจริยธรรมเป็นสิ่งสำคัญ แต่ขณะนี้บ้านเรามีปัญหาในการปฏิบัติ ทั้งในชีวิตประจำวัน ในระบบการศึกษา ตลอดจนระบบการทำงาน จึงยังมีหลายสิ่งที่ต้องปรับปรุง ดังนั้นโครงการนี้คณะครุศาสตร์ ร่วมกับ ศูนย์ส่งเสริมพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) และเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษา ที่รวมพลังขับเคลื่อนคุณธรรมจริยธรรมในภาคปฏิบัติในสังคมมากยิ่งขึ้น โดยคณะครุศาสตร์ทำการคัดเลือกผลงานวิจัยหรือการปฏิบัติที่เข้าข่ายดีเยี่ยม (Best Practis) หรือกรณีตัวอย่างต่างๆ จากงานวิจัยที่นำเสนอเข้ามายังโครงการเปิดขอบฟ้าคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งตนเชื่อว่ามีการปฏิบัติหรือการขับเคลื่อนคุณธรรมจริยธรรมที่ดีนั้นมีอยู่มากในสังคม โครงการนี้จึงถือเป็นการให้กำลังใจคนทำดี เพื่อให้ทุกภาคส่วนเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ว่าสิ่งดีๆ หรือการทำความดีทำอย่างไรและเห็นผลอย่างไร โดยไม่ใช่การกระทำแบบเดิมๆ สำหรับผลงานวิจัยด้านคุณธรรมจริยธรรมที่เรามีอยู่ขณะนี้ มีทั้งผลงานจากนิสิตและคณาจารย์ในคณะคุรุศาสตร์จุฬาเอง และขณะเดียวกันเราได้จับมือกับคณะคุรุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ทั่วประเทศทำการวิจัย เพื่อยกระดับคุณภาพ และคุณลักษณะด้านคุณธรรมจริยธรรมของผู้เรียน โดยได้รับการสนับสนุนจากสภาวิจัยแห่งชาติ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2551 นี้
"จากการสังเกตุการณ์สภาพแวดล้อมในสังคมปัจจุบัน การกระตุ้นต่อมจริยธรรมถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องคงไม่สามารถผลได้ในครั้งเดียว เพราะคนส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนทัศนคติยอมรับว่าการทำดี ทำยากกว่าการทำสิ่งไม่ดี ซึ่งไม่จริงเสมอไป จึงต้องพัฒนาความคิดของคนให้ต่อสู้กับกระแสสิ่งไม่ดีที่แวดล้อมอยู่ได้หรือไม่ โดยเน้นการพัฒนาและกระตุ้นให้มีภูมิต้านทาน และหาแนวทางที่จะทำให้คนไทยมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดไม่ดีให้เป็นความดีงามและถูกต้อง พร้อมทั้งเรียกร้องให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขสิ่งไม่ดีด้วย โดยคณะคุรุศาสตร์ จุฬาฯ มีการบ่มเพาะส่งเสริมคุณลักษณะความเป็นครูให้กับนิสิตเน้นคุณธรรม 9 ประการ ได้แก่ จิตวิญญาณความเป็นครู ความไฝ่รู้ วิจารณญาณความเป็นผู้นำ จิตสำนึกต่อสังคม ความกล้าหาญทางจริยธรรม มีวินัยในตนเอง และวุฒิภาวะทางอารมณ์และจิตสำนึกที่ดีงาม หากนิสิตที่จบไปเป็นครูก็จะมีแนวทางในการดำเนินชีวิตและการทำงานที่เข็มแข็งด้านคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งผมหวังให้เยาวชนและผู้มีบทบาทหน้าที่ในสังคมนำงานวิจัยไปคิดต่อยอดได้ด้วย โดยการกระตุ้นให้เกิดขบวนการต่อยอดส่งเสริมพลังแผ่นดินด้านคุณธรรมจริยธรรม ให้งอกงามเข้มแข็ง อย่างต่อเนื่องไม่หยุดพักเปรียบเสมือนไฟไหม้ฟาง ทั้งนี้ต้องอาศัยการทำกิจกรรมปลุกกระแสให้เรื่องนี้อยู่ในความนิยมของคนในสังคมให้มากที่สุด ซึ่งจะก่อให้เกิดความอยู่ดีมีสุข แบบยั่งยืนเกิดขึ้นในสังคมไทย " รศ.ดร.พฤทธิ์ กล่าว
ดร.วาณี อรรจน์สาธิต รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาศักยภาพนิสิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) กล่าวว่า หลังจากลงนามความร่วมมือแล้ว มศว.จะนำโครงการเปิดขอบฟ้าคุณธรรมจริยธรรมของศูนย์คุณธรรมไปเสนอในที่ประชุมคณะกรรมบริหารของมหาวิทยาลัย เพื่อคัดสรรงานวิจัยจากนิสิตและคณาจารย์ ตลอดจนโครงการที่เกี่ยวข้องมานำเสนอ ซึ่งขณะนี้ มศว. ได้จัดทำโครงการส่งเสริมอัตลักษณ์ของนิสิต ภายใต้แนวคิด 8 ประการได้แก่ คิดเป็นทำเป็น หนักเอาเบาสู้ รู้กาลเทศะ เปี่ยมจิตสำนึกสาธารณะ มีทักษะสื่อสาร อ่อนน้อมถ่อมตน งามด้วยบุคคลิก และพร้อมด้วยศาสตร์และศิลป์ ซึ่งจัดทำโครงการเป็นแผนปฏิบัติงานระยะยาว 4 ปี นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2551 — 2554 โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ นิสิตที่เข้าศึกษาในชั้นปีที่ 1 ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติโครงการนี้อย่างจริงจังและเร่งด่วนไปตลอดจนกระทั่งจบการศึกษาในชั้นปีที่ 4 โดยจะเน้น กาละเทศะ บุคลิกภาพ ความอ่อนน้อมถ่อนตน
"เรามองว่าหากนิสิตไม่สามารถปฏิบัติตนภายใต้กฏระเบียบเล็กน้อยของมหาวิทยาลัยได้ เช่นระเบียบการแต่งกาย การใช้วาจาสุภาพ และมีจิตสำนึกต่อสาธารณะ เมื่อจบไปแล้วจะใส่ใจรับผิดชอบต่อสังคมได้อย่างไร ด้านบทบาทของครูผู้สอน จะมุ่งเน้นการสอนด้านคุณธรรมจริยธรรมสอดแทรกเข้าไปในชั้นเรียนและรายวิชาที่เกี่ยวข้อง เพราะเรียนเก่งอย่างเดียวไม่สามารถอยู่ในสังคมหรือช่วยเหลือสังคมได้ และจะทำการสรุปข้อมูลทั้งหมด เมื่อนิสิตจบการศึกษาออกไป เพื่อนำมาประเมินว่า นิสิตมีพัฒนาการด้านคุณธรรมมากน้อยแค่ไหน และเป็นไปในทิศทางใด " รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาศักยภาพนิสิต มศว. กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.สิริพัชร์ เจษฏาวิโรจน์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า โครงการเปิดขอบฟ้าคุณธรรมจริยธรรมเป็นโครงการที่ดี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นสังคมให้เกิดกระแสรณรงค์ด้านคุณธรรมจริยธรรมเพิ่มมากขึ้น สำหรับขั้นตอนต่อไปตนจะรับหน้าที่ไปเลือกเฟ้นหาผลงานวิจัยที่คณาจารย์และนิสิตจากคณะต่างๆได้จัดทำขึ้น โดยจะดูที่เนื้อหาของงานวิจัยนั้นๆ ว่าเรื่องใดที่เข้าข่ายการรณรงค์ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและมีการใช้เครื่องมืออะไร ความเหมาะสมที่จะนำเสนอในโครงการฯหรือไม่
"สำหรับมหาวิทยาลัยรามคำแหงนั้นได้มีการบรรจุหลักการเรียนการสอนที่ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในหมู่นักศึกษา เช่น ระดับปริญญาตรีจะต้องเรียนวิชาบังคับ "ความรู้คู่คุณธรรม" RU 100 /ระดับปริญญาโท เรียนวิชา RU 600 เป็นหลักสูตรระยะสั้น 20 ชั่วโมง เน้นด้านคุณธรรมความเสียสละเอื้อเฟื้อต่อส่วนรวม ส่วนนักศึกษษระดับปริญญาเอก จะต้องเรียนวิชา RU 900 ซึ่งเน้นการอบรมคุณธรรมเชิงปฏิบัติการ เมื่อจบหลักสูตรจะมีการประเมิน และตัดเกรด มี 2 ระดับได้แก่ S คือ ผ่าน และU สำหรับผู้ที่ไม่ผ่านการประเมิน แม้วิชาดังกล่าวจะไม่มีการนับเป็นหน่วยกิตรวม แต่ถ้านิสิต นักศึกษาสอบไม่ผ่านก็ถือว่าไม่จบการศึกษา " ผศ.ดร.สิริพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้การผนึกกำลังของมหาวิทยาลัย และสถาบันอุดมศึกษาจะเป็นการปัดฝุ่นงานวิจัยคุณภาพที่ถูกเก็บไว้บนหิ้งให้ออกมาตีแผ่ข้อเท็จจริงและองค์ความรู้ต่างๆ นำไปสู่การก่อร่างสร้างสังคมคุณธรรมต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ศูนย์คุณธรรม
คุณประมวล/ คุณรัดใจ 02-6449900 # 301-302
คุณอาภาภรณ์ / คุณวันนิษา 081-5508412

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ