กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--ปภ.
ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับ กรมคุมประพฤติ จัดโครงการขับเคลื่อนมาตรการ “คุมประพฤติ” เพื่อให้ชุมชนปลอดภัยจากอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ภายใต้แนวคิด “ดื่มแล้วขับ ถูกจับคุมประพฤติ” ในวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๑ ณ สี่แยกอรุณอัมรินทร์ กรุงเทพมหานคร เวลา ๑๓.๐๐ — ๑๖.๐๐ น.
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ อย่างเช่นเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณรถบนถนนสายต่างๆ หนาแน่น จึงเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าช่วงเวลาปกติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน องค์กรหลักของรัฐบาลในการบูรณาการการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนระดับประเทศ จึงได้ร่วมกับกรมคุมประพฤติ ในการจัดโครงการขับเคลื่อนมาตรการ “คุมประพฤติ” เพื่อให้ชุมชนปลอดภัยจากอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ภายใต้แนวคิด “ดื่มแล้วขับ ถูกจับคุมประพฤติ” ในวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๑ ณ สี่แยกอรุณอัมรินทร์ กรุงเทพมหานคร เวลา ๑๓.๐๐ — ๑๖.๐๐ น. ดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์การบังคับใช้กฎหมายด้านวินัยจราจรและมาตรการคุมประพฤติ การประชาสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน (การประสานให้อาสาสมัครคุมประพฤติ และเครือข่ายระดับชุมชน เป็นแนวร่วมในการดำเนินงาน) โดยมีหน่วยงานภาคีเครือข่ายผู้ถูกคุมความประพฤติ ผู้ใช้รถซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีพฤติกรรมการขับรถโดยประมาทเข้าร่วมกิจกรรม และมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนรับรู้มาตรการบังคับใช้กฎหมายที่ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับพระราชบัญญัติจราจร เรื่อง “คุมประพฤติ” (การอบรม หรือการทำงานบริการสังคม) ซึ่งเป็นบทลงโทษของผู้ที่กระทำผิดกฎจราจร เช่น เมาแล้วขับ แข่งรถในทางที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น อีกทั้งเพื่อเป็นสร้างจิตสำนึกในการขับขี่อย่างปลอดภัย และการมีพฤติกรรมใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ซึ่งจะช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๕๑ นี้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จะเข้มงวดการกระทำผิดของเด็กที่อายุต่ำกว่า ๑๘ ปี โดยจะนำมาตรการทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ มาดำเนินคดีกับผู้ปกครองที่ปล่อยให้เด็กออกมากระทำผิดหรือสร้างความเดือดร้อนกับผู้อื่น ตลอดจนจะเข้มงวดกับผู้ที่ดื่มแล้วขับเป็นพิเศษ เนื่องจากจากสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่ผ่านมา พบว่า การเมาแล้วขับเป็นสาเหตุ อันดับหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน นอกจากนี้ จะได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เข้มงวดการตรวจวัดแอลกอฮอล์ และหากตรวจพบผู้ขับรถที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า ๕๐ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ นอกจากมีโทษจำคุกและปรับตามกฎหมายแล้ว ยังถูกพักใบอนุญาตขับขี่ และต้องทำงานบริการสังคมอีกด้วย สุดท้ายนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการสร้างความปลอดภัยทางถนน ด้วยการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ดื่มไม่ขับอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์ปี ๒๕๕๑ เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลอดภัย