บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เดินหน้ากระตุ้นการค้าข้ามพรมแดน โดยได้ขยายปลายทาง 2 บริการส่งประหยัด ได้แก่ บริการ ePacket จากประเทศไทยถึงปลายทางเมียนมาร์ และบริการพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศทางภาคพื้นจากประเทศไทยถึงปลายทางสปป.ลาว เพื่อรองรับความต้องการส่งสิ่งของจากประเทศไทยสู่เพื่อนบ้าน โดยเริ่มเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมรายละเอียดบริการได้ทางเว็บไซต์ https://international.thailandpost.com/
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากนโยบายส่งเสริมการค้าข้ามพรมแดนภายในภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนกระแสความนิยมซื้อขายสินค้าออนไลน์ของชาวต่างชาติ รวมทั้งการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งภูมิภาคอาเซียนถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ไปรษณีย์ไทยจึงได้ขยายขอบเขตการให้บริการ ePacket ไปยังปลายทางเมียนมาร์ และพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศทางภาคพื้น (Surface) ไปยังปลายทางลาว เพื่อรองรับความต้องการจัดส่งสิ่งของภายในภูมิภาคอาเซียน โดยจะเริ่มเปิดให้บริการในปลายทางดังกล่าว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ePacket และ พัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศทางภาคพื้น (Surface) เป็นบริการส่งระหว่างประเทศที่เน้นความประหยัด ช่วยลดต้นทุนในการจัดส่งสำหรับผู้ประกอบการให้สามารถวางแผนควบคุมค่าขนส่งได้มากขึ้น โดย ePacket ส่งได้สูงสุดถึง 2 กก. เหมาะสำหรับสิ่งของชิ้นเล็กน้ำหนักเบา อาทิ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องประดับ และตัวอย่างสินค้า เป็นต้น อัตราค่าบริการปลายทางเมียนมาร์เริ่มต้นที่ 160.- บาท/ชิ้น สำหรับพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศทางภาคพื้น (Surface) ด้วยการขนส่งทางเรือ ส่งได้สูงสุดถึง 30 กก. เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการส่งสินค้าที่ไม่สามารถขนส่งทางอากาศได้ รวมถึงของชิ้นใหญ่น้ำหนักมาก อาทิ ของเหลว แบตเตอรี่ เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน และของเล่นเด็ก เป็นต้น โดยมีอัตราค่าบริการปลายทางลาวเริ่มต้นที่ 470.- บาท/ชิ้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือเข้าชมทาง https://international.thailandpost.com/
ติดตามข่าวสารไปรษณีย์ไทยเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.th
เฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ทวิตเตอร์ : @Thailand_Post
ไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Post