กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--
บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเฟค ประกาศผลประกอบการปี 2550 ด้วยยอดขายเครื่องถ่ายเอกสารดิจิตอลมัลติฟังก์ชั่นสี ได้มากกว่า 300 เครื่อง ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปี 2549 ที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ารายได้รวมของบริษัทมีมูลค่า 580 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารุกตลาดหวังเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้ 15 % คุณดำริห์ เอมมาโนชญ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - ปฎิบัติการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเฟค กล่าวว่า ทิศทางการทำตลาดเครื่องถ่ายเอกสารดิจิตอลมัลติฟังก์ชั่นสี ในปี 2550 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 15 % ถือว่าเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากในระดับที่น่าพอใจ และมียอดขายเครื่องถ่ายเอกสารดิจิตอลมัลติฟังก์ชั่นสี ได้มากกว่า 300 เครื่อง ส่งผลให้บริษัทมีรายได้กว่า 580 ล้านบาท ซึ่งเป็นเพราะสินค้านั้นได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ใช้งานเป็นอย่างดี สำหรับในปีนี้ KONICA MINOLTA ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องถ่ายเอกสารดิจิตอลมัลติฟังก์ชั่นสีไว้ที่ 15% คิดเป็นจำนวน 500 — 600 เครื่อง โดยมีกลุ่มลูกค้าคาดหวังแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มลูกค้าราชการ รัฐวิสาหกิจคิดเป็น 25 -30 % และที่เหลือเป็นกลุ่มธุรกิจเอกชน ซึ่งนับว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และมีกำลังซื้อสูง โดยบริษัทได้มีการเตรียมเครื่องถ่ายเอกสารดิจิตอลมัลติฟังก์ชั่นสีที่จะออกมาสู่ตลาดที่มีคุณสมบัติความเร็วในการพิมพ์ได้เทียบเท่ากับเครื่องถ่ายเอกสารประเภทขาวดำ ความเร็วตั้งแต่ 20 แผ่น/นาที, 25 แผ่น/นาที , 35 แผ่น/นาที , 45 แผ่น/นาที, 55 แผ่น/นาที และ 65 แผ่น/นาที เพื่อทดแทนการใช้เครื่องถ่ายเอกสารประเภทขาวดำ ซึ่งเป็นการตอบสนองแนวนโยบายของบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่คาดหวังจะเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดหวังจะให้โคนิก้า มินอลต้า เป็นผู้นำด้านเครื่องถ่ายเอกสารดิจิตอลมัลติฟังก์ชั่นสีอันดับ 1 ในประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดมาแล้วในประเทศญี่ปุ่น , จีน ,ยุโรป และอเมริกา คุณดำริห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในปีนี้บริษัทจะเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรในเรื่องการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ และการเช่าซื้อสินค้า ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่มีสัดส่วนรายได้ของเครื่องเช่าและเครื่องขายในอัตรา 50:50 เป็นรายได้จากการเช่าอยู่ที่ 40 % และรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเป็น 60 % โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากองค์กรรายย่อยที่สามารถซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ โดยมีบริการ IFEC Customer Care Center เพื่อทำหน้าที่รับแจ้งซ่อม และกำกับดูแล ซึ่งบริษัทฯ มีสาขารองรับทั่วประเทศ ดูแลลูกค้ารวดเร็ว ทันใจอีกด้วย