ซัมซุงตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านโซลูชั่นเครื่องปรับอากาศด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม ในปีนี้ซัมซุงจัดเต็มด้วยการเปิดตัวไลน์อัพเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ในกลุ่ม WindFree(TM) สำหรับกลุ่มลูกค้าบ้านที่อยู่อาศัยทั่วไป และกลุ่มลูกค้าองค์กร รุ่น DVM S2, Free Joint Multi (FJM) และ Ceiling Fixed Speed R32 Mark 5 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยและการทำงานด้วย AI Energy Mode ที่จัดการเรื่องความเย็นในบ้านให้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดไฟ ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมเครื่องปรับอากาศ WindFree(TM) แบรนด์แรกของโลก อีกทั้งยังเพิ่มความคุ้มค่าและประสบการณ์อัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเชื่อมต่อได้อย่างไร้ขีดจำกัดอย่าง SmartThings รวมถึงการขยายระยะเวลารับประกันอะไหล่นานสูงสุดถึง 5 ปีเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายสูงสุดของผู้อาศัยภายใต้คอนเซ็ปท์ Live A New Day
นางสาวอภิรดี พหลเวชช์ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจเครื่องปรับอากาศ กล่าวว่า "ในปีนี้ซัมซุง มุ่งตอบโจทย์วิสัยทัศน์หลัก ในเรื่อง Sustainability, Connectivity และ Personalization ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้นและตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบผ่านนวัตกรรมทันสมัยและการเชื่อมต่ออัจฉริยะและผลิตภัณฑ์ที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง โดยจะแทรกซึมเข้าไปอยู่ในทุกๆ ขั้นตอน กิจกรรมต่างๆ และผลิตภัณฑ์ของซัมซุง ในส่วนของเครื่องปรับอากาศ เทคโนโลยี WindFree(TM) จะเปลี่ยนนิยามของเครื่องปรับอากาศที่จะเป็นมากกว่าแค่อุปกรณ์ทำความเย็น เรามี AI Energy Mode ฟีเจอร์ที่ช่วยทำให้ประหยัดไฟมากขึ้น แพลตฟอร์ม SmartThings ที่จะมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่สามารถกำหนดเองได้และตอบสนองความต้องการแต่ละคน โดยเราตั้งใจที่จะพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อแสดงออกถึงบุคลิกของผู้อาศัย ตรงความต้องการมากยิ่งขึ้น"
เทคโนโลยี WindFree(TM) ที่ทะลายคำจำกัดความของเครื่องปรับอากาศ
ซัมซุงเป็นแบรนด์แรกในโลกผู้บุกเบิกเทคโนโลยี WindFree(TM) โดยเทคโนโลยีนี้ได้ถูกเปิดตัวในประเทศไทยและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง WindFree(TM) คือ เทคโนโลยีที่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เย็นสบายทั่วถึงทั่วทั้งพื้นที่โดยที่ไม่มีกระแสลมออกมาปะทะตัว ทำงานโดยกระจายกระแสลมที่นุ่มนวลและอ่อนโยนอย่างสม่ำเสมอผ่านรูเล็กๆ นับหมื่น ปราศจากเสียงรบกวน ให้รู้สึกเย็นสบาย โดยไม่มีกระแสลมเย็นมาปะทะตัวอีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานถึง 77%
ประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืนพร้อมกับลดผลกระทบต่อสภาวะอากาศด้วยโหมด AI Energy Saving
ควบคุมและติดตามการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ และที่สำคัญให้ผู้ใช้งานสามารถประหยัดพลังงานได้อย่างยั่งยืนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ด้วยโหมด AI Saving Mode โหมดประหยัดพลังงานอัจฉริยะช่วยลดพลังงานสูงสุดได้ถึง 20% ช่วยให้สามารถตรวจสอบและลดค่าไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการเข้าถึงค่าการใช้พลังงานอย่างแม่นยำ ระบบ AI สามารถประเมินค่าไฟต่อเดือน รวมถึงเสนอทางเลือกในการประหยัดพลังงานให้กับผู้ใช้งาน สามารถดึงเอกลักษณ์ของเจ้าของออกมาอย่างชัดเจนและตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากที่สุด
ตอบสนองความต้องการของคนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ
SmartThings สร้างสมาร์ทโฮมอัจฉริยะ ด้วยพลังแห่งการควบคุมการเชื่อมต่อที่รองรับมาตรฐานแมตเทอร์ (Matter)[1]
แพลตฟอร์ม SmartThings จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ผู้ใช้สามารถควบคุมและติดตามการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้แบบเรียลไทม์ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ผ่านแอพพลิเคชัน SmartThings ที่มอบทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัย และสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ซัมซุงหรืออุปกรณ์ที่ผลิตโดยพันธมิตรในอุตสาหกรรม SmartThings จะช่วยมอบประสบการณ์บ้านที่อัจฉริยะมากขึ้นให้กับผู้บริโภคที่สามารถกำหนดเองได้และตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย เสริมประสิทธิภาพการจัดการเครื่องปรับอากาศของคุณด้วย มอบความสะดวกสบายด้วยการเชื่อมต่อที่ไร้ขีดจำกัด
สำหรับลูกค้าบ้านที่อยู่อาศัย ไลน์ผลิตภัณฑ์ Windfree(TM) ได้เปิดตัวในประเทศไทยในปีที่แล้ว กับ 2 รุ่นได้แก่ WindFree(TM) Premium Plus และ WindFree(TM) Premium Copper ในปีนี้ซัมซุงเสริมทัพแบบจัดเต็มด้วย 4 รุ่นใหม่ได้แก่ WindFree(TM) AI Copper, WindFree(TM) AI, WindFree(TM) Copper, WindFree(TM) เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
ในส่วนของลุกค้าองค์กร ในปีที่แล้วซัมซุงได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศระบบ Variable Refrigerant Flow (VRF) รุ่นใหม่ DVM S2 ครั้งแรกในงาน BANGKOK RHVAC 2022 and BANGKOK E&E 2022 โดยในปีนี้ซัมซุงนำเสนอ Free Joint Multi (FJM) ซึ่งเป็นชุดคอนเดนซิงที่จะเชื่อมต่อกับเครื่องปรับอากาศภายในห้องได้หลากหลายรูปแบบสูงสุดถึง 5 เครื่อง ซึ่งสามารถต่อ 360 Cassette, WindFree(TM) 1Way Cassette, WindFree(TM) Wall Type, Duct และ Ceiling Fixed Speed R32 Mark 5 เหมาะสำหรับคอนโดมิเนียม โรงแรม หรือ อาคารที่มีพื้นที่วางชุดคอนเดนซิ่งจำกัด เพื่อช่วยให้ผู้ใช้มีความยืดหยุ่นในการติดตั้งและลดค่าใช้จ่ายและเวลามากขึ้นอีกด้วย