กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--ศปถ.
ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2551 ณ ห้องประชุม 352 กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย และศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันศุกร์ที่ 11 เมษายน 2551 เวลา 10.00 น.เพื่ออำนวยการบริหารจัดการอุบัติเหตุทางถนน วิเคราะห์และประเมินผล พร้อมสั่งการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2551
นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้จัดทำแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์หลัก 5 ด้าน (การบังคับใช้กฎหมาย วิศวกรรมจราจร การให้ความรู้ การประชาสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วม ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน การประเมินผลและสารสนเทศ) มุ่งเน้นการลดปัจจัยเสี่ยงควบคู่กับ การสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน และสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาท ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น สำหรับเป้าหมายการดำเนินการในภาพรวม คือ สามารถลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ (admit) ระหว่างวันที่ 11 — 17 เมษายน 2551 น้อยกว่าสถิติอุบัติเหตุในช่วงเดียวกันของปี 2550 (วันที่ 11-17 เมษายน 2551)
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน คนที่ 2 กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานสังกัดสำรวจจุดเสี่ยงจุดอันตรายบนถนนสายหลัก สายรอง และปรับปรุงซ่อมแซมถนนให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย รวมทั้งได้ประสานให้ผู้รับจ้างคืนสภาพผิวการจราจร หยุดพักการก่อสร้างถนน และขอความร่วมมือสมาคมผู้ประกอบการรถบรรทุกสินค้า ให้หยุดวิ่งรถบรรทุกในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สำหรับการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง จะมีการเปิดใช้เส้นทางพิเศษในช่วงขาเข้าและขาออก เพื่อลดความหนาแน่นของปริมาณรถ ในเส้นทางสายหลักและขยายเส้นทางในการเดินทางเพิ่ม นอกจากนี้ จะได้มีการนำรถโดยสารออกให้บริการประชาชนที่จะเดินทางในบริเวณเส้นทาง ขาออก เพื่อลดความแออัดของการจราจรบริเวณสถานีขนส่ง และมีการเพิ่มจำนวนรถโดยสารสาธารณะและจำนวนเที่ยวรถไฟ เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางออกจากกรุงเทพฯในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตลอดจนเข้มงวดกวดขันการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานขับรถโดยสารประจำทาง โดยให้มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ก่อนออกเดินทางทุกคัน สำหรับเส้นทางไกลจะจัดให้มีพนักงานขับรถคอยผลัดเปลี่ยน เพื่อป้องกันการหลับใน ซึ่งเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุร้ายแรง
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน คนที่ 4 กล่าวว่า ด้านการเตรียมความพร้อมของระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ได้มีการเชื่อมโยงระบบการสื่อสาร การแจ้งเหตุฉุกเฉินกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้งมูลนิธิ อาสาสมัคร และจัดให้มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนน ให้สามารถนำผู้บาดเจ็บส่งสถานพยาบาลได้อย่างถูกวิธี รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ ได้ระดมกำลังทั้งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศ กว่า 500,000 คน พร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุ ปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ จุดบริการทั้งถนนสายหลักและถนนสายรอง ตลอดจนได้สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ เตรียมพร้อมทั้งด้านบุคลากร อุปกรณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดอุบัติเหตุใหญ่ มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก จะสามารถให้ความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา หากโรงพยาบาลแรกรับมีเครื่องมือ และอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ในการรักษาพยาบาล จะมีการจัดระบบส่งผู้ป่วยต่อระหว่างโรงพยาบาลต่อไป
นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนคนที่ 6 กล่าวว่า ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนระดับท้องถิ่น กระทรวงหมาดไทยได้กำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกระดับ สำรวจจุดเสี่ยงอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่อแก้ไขปัญหา รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร วัสดุอุปกรณ์สนับสนุนการ
จัดตั้งจุดตรวจร่วม จุดสกัดกั้นตามชุมชนและหมู่บ้าน รวม 10,770 แห่ง นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล (OTOS) ที่ผ่านการฝึกอบรม ให้มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลืออุบัติเหตุทางถนน ณ จุดเกิดเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า สำหรับการดำเนินป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ในระดับจังหวัด ได้กำชับให้สำรวจจุดเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน กำหนดพื้นที่การเล่นสาดน้ำให้เหมาะสม กำหนดจุดตรวจทั้งเส้นทางถนนสายหลักและถนนสายรอง โดยนำบทเรียนจากการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ มาปรับแผนงานให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพปัญหาในพื้นที่ และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันประสาน การจัดตั้งด่านตรวจ จุดสกัด ทั้งบนถนนสายรองและสายหลัก โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อของแต่ละจังหวัด เพื่อมิให้ผู้ใช้รถใช้ถนนหลบเลี่ยงการตรวจจับ รวมถึงอำนวยความสะดวกและความปอลดภัยทางถนนตลอดเส้นทาง
นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2551 จะเข้มงวดการตรวจจับผู้กระทำผิดกฎจราจรอย่างจริงจัง ไม่เลือกปฏิบัติ หรือลดหย่อน โดยเฉพาะผู้ที่เมาสุราแล้วขับรถ ผู้ที่ขับรถเร็ว เกินอัตรา ที่กฎหมายกำหนด ตามเส้นทางสายหลัก สายรอง เน้นบริเวณสถานที่ชุมชน หน้าสถานบันเทิง และบริเวณที่มีการเล่นสาดน้ำเป็นหลัก เพื่อป้องปรามการฝ่าฝืนหรือกระทำผิด และจะเข้มงวดการกระทำผิดของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยจะนำมาตรการทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาดำเนินคดีกับผู้ปกครองที่ปล่อยให้เด็กออกมากระทำผิดหรือสร้างความเดือดร้อนกับผู้อื่น นอกจากนี้ ยังเข้มงวดกับผู้ที่ดื่มแล้วขับเป็นพิเศษ เน้นการตรวจวัดแอลกอฮอล์ และการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากตรวจพบผู้ขับรถที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีโทษจำคุกหรือปรับตามกฎหมาย ถูกพักใบอนุญาตขับขี่ และต้องทำงานบริการสังคมอย่างน้อย 40 ชั่วโมง
นายบุรี แก้วเล็ก รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดกิจกรรมสนับสนุนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โครงการตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน โดยนักศึกษาและครู จากวิทยาลัยสารพัดช่างทั่วประเทศกว่า 5,000 คน ให้บริการตรวจสอบสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฟรี ตลอดช่วง 7 วันระวังอันตราย (11-17 เมษายน 2551) บริเวณเส้นทางถนนสายหลักและถนนสายรอง ทั่วประเทศ รวม 250 ศูนย์ ซึ่งได้ให้ทางโรงเรียนกำชับให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานเป็นพิเศษ ไม่ปล่อยให้เด็กที่ยังไม่มีอนุญาตขับขี่ ออกไปขับขี่ตามท้องถนน เนื่องจากเด็กขาดวุฒิภาวะ และยังไม่สามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาฉุกเฉินเฉพาะหน้าได้ดี เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทางถนนขึ้นกับเด็กและเยาวชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน มีความพร้อมในการดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2551 ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2551 ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการอุบัติเหตุทางถนน โดยการรวบรวมข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ ระดับอำเภอ นำข้อมูลมาวิเคราะห์ประเมินผล และใช้ในการอำนวยการ สั่งการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ภายในพื้นที่ รวมทั้งการรายงานข้อมูลโดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นตัวเชื่อมโยงผ่านระบบอินเตอร์เน็ท ความเร็วสูงมายังศูนย์ฯ ส่วนกลาง เพื่อเป็นข้อมูลกลางในการรายงานการเกิดอุบัติเหตุและการแก้ไขปัญหา รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แก่สื่อมวลชนและประชาชนเพียง แห่งเดียว เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพ ถูกต้อง และสามารถตรวจสอบได้
ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน กำหนดให้มีการแถลงข่าวสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยผู้บริหารศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ตลอดช่วง 7 วันระวังอันตราย ระหว่างวันที่ 12-18 เมษายน 2551 เวลา 11.00 น. เพื่อให้ตัวเลขสถิติอุบัติเหตุทางถนนเป็นเครื่องย้ำเตือนใจให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ตระหนักถึงความสูญเสีย และมีจิตสำนึกในการขับขี่ยานพาหนะอย่างระมัดระวัง และจะได้ นำข้อมูลที่ได้รวบรวมไว้มาศึกษาวิเคราะห์ถึงปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยแห่งความสำเร็จ รวมถึงข้อบกพร่องต่างๆ มาเป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาการวางแผนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในภาพรวมของประเทศ ทั้งในช่วงเทศกาล และในระยะยาวต่อไป เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ทางถนนให้เกิดขึ้นในสังคมไทย