บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น หรือ MEB ปลื้มกระแสตอบรับโรดโชว์บนแพลตฟอร์มออนไลน์คึกคัก สะท้อนความเชื่อมั่นในธุรกิจวรรณกรรมออนไลน์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ชูจุดแข็งเบอร์หนึ่งธุรกิจวรรณกรรมออนไลน์ (E-Book) ของไทย มีสมาชิกมากกว่า 8,000,000 ราย มีฐานะทางการเงินมั่นคง โดยมีวรรณกรรมเพื่อนักอ่านมากกว่า 1,000,000 เรื่อง ที่สำคัญไม่มีภาระหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ทั้งยังเป็นบริษัทในเครือของ CRC ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เตรียมขายไอพีโอจำนวนไม่เกิน 75.5 ล้านหุ้น คาดเข้าเทรดในตลาด mai ประมาณวันที่ 14 ก.พ. นี้ ฟากบิ๊กบอส "รวิวร มะหะสิทธิ์" ระบุระดมทุนนำไปขยายธุรกิจปัจจุบันและธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเนื้อหาวรรณกรรมออนไลน์ ขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ ปรับปรุงแพลตฟอร์ม เพื่อมุ่งสร้างผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของ บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MEB) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทีมผู้บริหาร MEB และที่ปรึกษาทางการเงินได้ร่วมกันนำเสนอข้อมูล (Investor Roadshow) บนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้กับนักลงทุนเพื่อให้เข้าใจถึงภาพรวมธุรกิจ และแผนการดำเนินงานในอนาคต รวมทั้งให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตภายหลังจากการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยคาดว่าจะสามารถระดมทุนและเข้าจดทะเบียนประมาณวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ในหมวดธุรกิจบริการ
โดย MEB มีแผนจะระดมทุนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25.17 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ซึ่งจะแบ่งเป็นการเสนอขายต่อนักลงทุนรายย่อยของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้มีอุปการคุณ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท และนักลงทุนสถาบัน
"การโรดโชว์ในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม เนื่องจาก MEB เป็นผู้นำธุรกิจวรรณกรรมออนไลน์ (E-Book) ที่มีวรรณกรรมและแพลตฟอร์มที่หลากหลาย มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งเมื่อพิจารณาจากรายได้รวม มีสมาชิกผู้เข้าใช้บริการมากกว่า 8,000,000 บัญชี และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุมาจากการให้บริการที่เหนือชั้น ความปลอดภัยในการใช้งาน และระบบที่มีความเสถียร ซึ่งสามารถสร้างความพึงพอใจและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการและเจ้าของผลงานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งอยู่ในอุตสาหกรรมวรรณกรรมออนไลน์ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูงจากการเติบโตของพฤติกรรมผู้บริโภคในการใช้อินเทอร์เน็ตและ Social Media นอกจากนี้ยังมีวรรณกรรมเพื่อนักอ่านมากกว่า 1,000,000 เรื่อง พร้อมกันนี้ยังมีผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินที่มั่นคง และเป็นบริษัทในเครือของ CRC ที่มีชื่อเสียงระดับโลกทำให้มีความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจและขยายกิจการ จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาว"
นายรวิวร มะหะสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MEB) ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ผ่านแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite เป็นแพลตฟอร์มสำหรับอ่านวรรณกรรมออนไลน์ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2562 - 2564 และงวด 9 เดือนของปี 2565 มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 618.72 ล้านบาท 1,004.68 ล้านบาท 1,456.38 ล้านบาท และ 1,263.54 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 82.09 ล้านบาท 164.74 ล้านบาท 275.34 ล้านบาท และ 241.85 ล้านบาท ตามลำดับ
"รายได้ของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) จากทั้งแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite ที่มีจำนวนผู้ใช้บริการเฉลี่ยต่อเดือน (Monthly Active User หรือ MAU) ของทั้ง 2 แพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น โดย MAU ของแพลตฟอร์ม meb ในปี 2562 เพิ่มขึ้นจาก 0.34 ล้านราย/เดือน เป็น 0.58 ล้านราย/เดือน ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 และ MAU ของแพลตฟอร์ม readAwrite เพิ่มขึ้นจาก 1.78 ล้านราย/เดือน ในปี 2562 เป็น 5.71 ล้านราย/เดือน ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมทางการตลาด และรายการส่งเสริมการขาย และผลจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่สนใจการอ่านวรรณกรรมออนไลน์มากยิ่งขึ้น"
สำหรับวัตถุประสงค์ในการใช้เงินระดมทุนครั้งนี้ประกอบด้วย 1. เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจที่อยู่ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน (meb readAwrite และ Hytexts) โดยการเพิ่มเนื้อหาวรรณกรรมออนไลน์ ประเภทนิยายและไม่ใช่นิยาย 2. เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันไปยังต่างประเทศ โดยเน้นการใช้ภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ ไปพร้อมกับซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมภาษาไทย แปลเป็นภาษาอังกฤษ และ 3. เพื่อใช้ในการปรับปรุงพัฒนาแพลตฟอร์มปัจจุบันให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ และจากแผนการใช้เงินดังกล่าว บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในอัตรารวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ