ภาพยนตร์ต่อไปที่คินเนียร์จะแสดงคือ เรื่อง Matador ซึ่งร่วมแสดงโดยกับเพียร์ซ บรอสแนน (Pierce Brosnan) ดีแลน พาร์คเกอร์ (Dylan Parker) และโฮป เดวิส (Hope Davis)
สองสามปีที่ผ่านมา เขานำแสดงในภาพยนตร์โรแมนติคคอมเมดี้เรื่อง Someone Like You คู่กับ แอชลี่ย์ จั๊ด (Ashley Judd) และ ฮิวจ์ แจ็คแมน (Hugh Jackman) และแสดงเรื่อง The Gift ของ แซม ไรมี่ (Sam Raimi) ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนวเขย่าขวัญเรื่องเหนือธรรมชาติ ร่วมกับ เคท แบลนเชท (Cate Blanchett) และ เคที่ โฮมล์ส (Katie Holmes)
นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์แนวตลกเสียดสีของ นิล ลาบูท (Neil LaBute) เรื่อง Nurse Betty ร่วมกับเรเน่ เซลวิงเกอร์ (Renee Zellweger) มอร์แกน ฟรีแมน (Morgan Freeman) และ คริส ร็อค (Chris Rock) คินเนียร์เมื่อไม่นานมานี้ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง Godsend ร่วมกับ โรเบิร์ต ดิเนโร่ (Robert Dinero) ใหกับค่ายภาพยนตร์ Lion Gate ความสำเร็จอีกอย่างของคินเนียร์ซึ่งนำพาเขาเข้ามาเป็นที่ยอมรับในสังคมนักแสดงฮอลลีวูดคือการแสดงอันยอดเยี่ยมร่วมกับแจ็ค นิโคลสัน (Jack Nicholson) เป็นไซมอน เพื่อนบ้านที่แสนโชคร้ายในภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอเข้าชิงออสการ์เรื่อง As Good As It Gets ของเจมส์ แอล บรู๊คส์ (James L. Brooks)
เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมโดย The National Board of Review และได้รับรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมจากรางวัล The Hollywood Foreign Press และรางวัลของ Screen Actor Guild และ รางวัลจาก Academy of Motion Picture Arts and Sciences.
คินเนียร์เข้ามาแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกเรื่อง Sabrina ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่นำกลับทำใหม่ของซิดนีย์ โพลแลค (Sydney Pollack) ซึ่งเขาแสดงร่วมกับ แฮริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) และ จูเลีย ออร์มอนด์ (Julia Ormond) การแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เขาได้รับการขนานนามจากองค์กรการค้าภาพยนตร์ว่าเป็นดาวรุ่งแห่ง NATO Sho West’s หลังจากที่เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์จากเรื่อง As Good As It Gets เขาได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์โรแมนติคคอมเมดี้ยอดฮิตเรื่อง You’ve Got Mail ของ โนร่า เอฟรอน (Nora Ephron) ร่วมกับทอม แฮงค์ส , และเม็ก ไรอัน นอกจากนี้ยังแสดงภาพยนตร์ของ ไมค์ นิโคลส์ (Mike Nichols) เรื่อง “What Planet Are You From?” ร่วมกับแกรี่ แชนดลิงค์ (Gary Shandling) และ แอนเน็ท เบนนิ่ง (Annette Benning) และยังได้เป็นนักแสดงรับเชิญเป็น Amazing Captian ในเรื่อง Mystery Men ด้วย
คินเนียร์มีชื่อเสียงมาจากการเป็นผู้ดำเนินรายการที่มีเสน่ห์และไหวพริบยอดเยี่ยม จากช่วง Talk Soup ของรายการโทรทัศน์ E! Entertainment! ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลเอมมี่ และสร้างฐานความโด่งดังจากตอนนั้น
นอกจากจะเป็นผู้ดำเนินรายการและผู้ผลิตของ Talk Soup แล้ว คินเนียร์ยังมีความสามารถอีกหลายด้านด้วยกันเช่นความคิดเห็นสอดแทรกตลกๆในรายการต่างๆเช่น Sally Jesse Raphael, Jerry Springer, และ The Montel Williams Show
เมื่อรายการ Talk Soup เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ผู้บริหารของ NBC เลยหันมาให้ความสนใจคินเนียร์เพราะกำลังหาคนมาแทน บ็อบ คอสต้า (Bob Costas) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการ Later with Bob Costas
ในปี 1994 คินเนียร์จึงเป็นทั้งผู้ดำเนินรายการและผู้บริหารของรายการสนทนาตอนดึกของ NBC ซึ่งเขาเป็นเจ้าของเอง ที่มีชื่อว่า Later with Greg Kinnear
เมล บรู๊คส์ Mel Brooks (บิ๊กเวลด์) เป็นทั้งผู้กำกับ ผู้ผลิต นักเขียน และนักแสดง เขาเป็นคนสร้างภาพยนตร์คลาสสิกแนวตลกเรื่อง Blazing Saddles, Young Frankenstein, High Anxiety และ Silent Movie
บรู๊คส์ได้รับรางวัลโทนี่ 3 รางวัลด้วยกันจากเรื่อง “The Producers: The New Mel Brooks Musical” (ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม, ภาพยนตร์เพลงยอดเยี่ยม และ เพลงดนตรียอดเยี่ยม)
นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลแกรมมี่ 2 รางวัลจาก สาขารางวัลอัลบัมการแสดงเพลงยอดเยี่ยมจาก The Producers และ รางวัลมิวสิควิดีโอแบบยาวยอดเยี่ยมจากเพลง “Recording ‘The Producers’ — A Musical Romp with Mel Brooks”
บรู๊คส์เริ่มเข้าสู่วงการจอแก้วตอนยุคเฟื่องฟูโดยเป็นนักเขียนบทให้กับซิด ซีซาร์ Sid Caesar เรื่อง Your Show of Shows ในปี 1951
ส่วนในปี 1955 และ 1957 บรู๊คส์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอมมี่สำหรับบทตลกยอดเยี่ยมสำหรับเรื่อง Caesar’s Hour และในปี 1956 เขาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล บทยอดเยี่ยทสำหรับรายการวาไรตี้หรือบทละครตอน (Situation Comedy)
ในปี 1952 ได้ร่วมเขียนบทร่างเรื่อง New Faces of 1952 กับโจ แดริออน (Joe Darion) ซึ่งเป็นบทสำหรับละครบรอดเวย์ของ ลีโอนาร์ด ซิลแมน (Leonard Sillman) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก และในปี 1957 เขียนบทให้กับละครเพลงบรอดเวย์เรื่อง Shinbone Alley ที่นำแสดงโดย เออร์ธา คิท และในปี 1962 เขาได้เขียนบทให้กับละครบรอดเวย์เรื่อง All American ที่นำแสดงโดย เรย์ โบลเจอร์ (Ray Bolger)
ในปี 1960 บรู๊คส์ร่วมทีมกับคาร์ล เรนเนอร์ (Carl Reiner) เพื่อเขียนบทและแสดงอัลบัม The 2000 Year Old Man ซึ่งได้รับความนิยมทันที
ในปี 1960 และ 1961 บรู๊คส์และ เรนเนอร์ ได้รับการเสอนชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่สาขา บทพูดยอดเยี่ยม:อัลบัมตลก จากผลงาน The 2000 Year Old Man และรางวัลการแสดงตลกยอดเยี่ยม สำหรับเรื่องเดียวกัน
ในปี 1997 บรู๊คส์และเรนเนอร์ร่วมงานกันอีกครั้ง เพื่อผลิต The 2000 Year Old Man in the Year 2000 ซึ่งผลิตผลงานออกมาในรูปหนังสือและซีดี ซีดีนั้นได้รับรางวัลแกรมมี่ในปี 1998 สาขาบทพูดตลก: อัลบัมตลก
ในปี 1964 บรู๊คส์เขียนและบรรยาย The Critic ซึ่งเป็นบทเสียดสีสำหรับภาพยนตร์ศิลปะแบบ Avant-garde ซึ่งทำให้เขาได้รับราวัลออสการ์สาขา เอนิเมชั่นแบบสั้นยอดเยี่ยม ในปีต่อมาบรู๊คส์ร่วมทีมกับ บั๊ค เฮนรี่ (Buck Henry) เพื่อสร้าง Get Smart ซึ่งเป็นรายการโทรทัศน์ที่ออกอากาศอยู่เป็นเวลานานนำแสดงโดย ดอน อดัมส์ (Don Adams) เป็นเจ้าหน้าที่ขี้หงุดหงิดอายุ 86 ปี
บรู๊คส์และคนอื่นๆได้รับรางวัลเอมมี่สำหรับความสำเร็จในการเขียนบทตลกยอดเยี่ยมสำหรับเรื่อง The Sid Caesar, Imogene Coca, Carl Reiner, Howard Morris Special
ในปี 1968 บรู้คส์เขียนและกำกับภาพยนตร็ฟอร์มใหญ่เรื่องแรกของเขา The Producers ซึ่งำนแสดงโดย ซีโร่ มอสเทล (Zero Mostel) และ จีน ไวลด์เดอร์ (Gene Wilder) ซึ่งบรู๊คส์ได้รับรางวัลออสการ์สำหรับบทภาพยนตร์ใหม่ยอดเยี่ยมซึ่งเขียนสำหรับภาพยนตร์โดยเฉพาะบรู๊คส์ก็มุ่งสร้างสรรค์ภาพยนตร์แนวตลกที่น่าประทับใจต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งเขาเขียนและแสดงในเรื่อง The Twelve Chairs (1970) ร่วมเขียนบท กำกับ และแสดงเรื่อง Blazing Saddles (1974) ซึ่งเรื่องนี้เองเขาได้รับการเสนอชื่อเขาชิงรางวัลเพลงนำยอดเยี่ยม ร่วมกับจอห์น มอร์ริส (John Morris)
เขาเขียนและกำกับ Young Frankenstein ปี 1974
เขาร่วมเขียน กำกับและแสดงในเรื่อง Silent Movie ปี 1976
เขาร่วมเขียน กำกับ ผลิตและนำแสดงในเรื่อง High Anxiety ปี 1977
เขาเขียน กำกับ ผลิต และนำแสดงในเรื่อง History of the World, Part 1 ปี 1981
เขาผลิตและร่วมแสดงในเรื่อง To Be or Not to Be ปี 1983
เขาร่วมเขียน กำกับ ผลิต และนำแสดงในเรื่อง Life Stinks ปี 1991
เขาร่วมเขียน กำกับ ผลิต และแสดงในเรื่อง Robin Hood: Men in Tights ปี 1993
เขาเขียน กำกับ ผลิตและแสดงในเรื่อง Dracula: Dead and Loving It ปี 1995
บรู๊คส์ได้รับรางวัลเอมมี่สำหรับบทลุง ฟิล (Uncle Phil) จากซีรี่ส์ตลกยอดฮิตเรื่อง Mad About You ติดต่อกันสามปีซ้อนตั้งแต่ 1997-1999
บรู๊คส์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มศิลปิน นักแสดง พิเศษเพียง 7 ท่าน ที่ได้รับรางวัลด้านบันเทิงครบทั้งสี่รางวัลหลักคือ รางวัลโทนี่ เอมมี่ แกรมมี่ และออสการ์ ศิลปินไม่กี่คนในกลุ่มนี้คือ เฮเลน เฮย์ส, จอห์น กิลกูด, ริต้า โมเนโร่, ออเดรย์ เฮปเบิร์น, มาร์วิน เฮมลิช และ ไมค์ นิโคลส์
บริษัทผลิตภาพยนตร์ของเขา บรู๊คส์ฟิล์มจำกัด (Brooksfilms Limited) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1980 ได้ผลิตภาพยนตร์ที่น่ายกย่องของอเมริกาเช่น The Elephant Man ของเดวิด ลินช์ ซึ่งนำแสดงโดย จอห์น เฮิร์ท และ แอนโทนี่ ฮอปกิ้นส์ ซึ่งจากภาพยนตร์เรื่องนี้ เฮิร์ท ได้รับรางวัลออสการ์หนึ่งรางวัลจากการเสนอชื่อเข้าชิงถึง 8 รางวัล หรือเรื่อง The Fly ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่น่าประทับใจของเดวิด โครเนนเบิร์ก นำแสดงโดย เจฟ โกลด์บลัม และจีน่า เดวิส
เรื่อง Frances ซึ่งเจสสิก้า แลงก์ และ คิม แสตนลี่ย์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์
เรื่อง My Favorite Year ของริชาร์ด เบนจามิน ซึ่งปีเตอร์ โอโทล ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ และเรื่อง 84 Charing Cross Road ซึ่ง แอนน แบนครอฟท์ ซึ่งแสดงคู่กับแอนโทนี่ ฮอปกิ้นส์ ได้รับรางวัล British Academy--จบ--