บมจ.เอเอ็มอาร์ เอเซีย (AMR) ผงาด! ร่วมออกบูธในงาน Bangkok EV Expo 2023 "มหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และพลังงานทางเลือก" พร้อมโชว์ศักยภาพ "มาชาร์จ" แพลตฟอร์ม (MaCharge) เพื่อผู้ประกอบการสำหรับบริหารจัดการข้อมูลการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ฟาก "นายมารุต ศิริโก" ซีอีโอ ระบุมั่นใจช่วยตอบโจทย์ผู้ประกอบการต้องการลดต้นทุน สอดรับกับกระแสลดภาวะโลกร้อนมุ่งสู่ธุรกิจยั่งยืน เตรียมจับมือพันธมิตรรายใหญ่ที่มีทำเลศักยภาพทั่วประเทศลุยขยายตู้สับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ตั้งเป้าปี 66 เพิ่มอีก 300 ตู้ พร้อมเดินหน้ารุกขยายธุรกิจ New S-Curve ปักหมุดปีนี้รายได้เติบโต 30-40%
นายมารุต ศิริโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMR เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้เข้าร่วมออกบูธในงาน Bangkok EV Expo 2023 "มหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทางเลือก" ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยบริษัทฯ ได้นำ MaCharge มาแนะนำให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการแพลตฟอร์มสำหรับการบริหารจัดการข้อมูลการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งจะช่วยสร้างการรับรู้ และความเข้าใจในแพลตฟอร์มดังกล่าว รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่จะนำมาใช้ เพื่อช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับกระแสลดภาวะโลกร้อน และพัฒนาไปสู่ธุรกิจยั่งยืนสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต
"การที่บริษัทฯ ได้ร่วมงานในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบการต้องการลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดย MaCharge จะมี Web Application ในการบริหารจัดการจากส่วนกลาง เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และสถานีฯ อีกทั้งยังสามารถนำข้อมูลที่จัดเก็บทั้งหมดมาวิเคราะห์เพื่อให้สามารถบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ ในโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้งาน ขณะเดียวกันคาดว่าจะมีผู้ให้ความสนใจ และนำแพลตฟอร์มไปใช้งานจำนวนมากขึ้นอย่างแน่นอน" นายมารุตกล่าว
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 30-40% โดยจะเน้นรุกขยายธุรกิจใหม่ที่เป็น New S-Curve ของบริษัทฯ โดยเฉพาะในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนที่เกี่ยวกับกรีนซิตี้และระบบโซลาร์เซลล์ รวมทั้งจะมีการศึกษาและพัฒนาการลงทุนในการใช้พลังงานในรูปแบบอื่นเพิ่มเติมอีกด้วย ขณะที่ธุรกิจกรีนทรานสปอร์ต กลุ่ม EV Bike จะมีการเติบโตมากขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านมาเป็นการเริ่มต้นธุรกิจเพื่อให้เกิดการยอมรับและนำไปใช้ในรถ EV เช่น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่คนทั่วไปให้ความสนใจและหันมาใช้งานมากขึ้น ดังนั้น ในปีนี้จะเดินหน้าขยายรูปแบบธุรกิจนี้เต็มรูปแบบ โดยคาดว่าจะมีการขยายจำนวนสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Swapping Battery Station) เพิ่มขึ้นอีก 300 ตู้ โดยจะเติบโตไปคู่กับพันธมิตรรายใหญ่ที่มีสถานที่รองรับตู้ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันจะมีการร่วมจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ระบบไฟฟ้าอีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงใช้ศักยภาพความเป็น SI รับงานการรับเหมาโครงการแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey Project) การให้บริการสัญญาบริหารจัดการและบริการซ่อมบำรุง (Operation and Maintenance) และการรับดำเนินงานแบบสัมปทานระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีมูลค่างานที่รอรับรู้รายได้ (backlog) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจปัจจุบันและธุรกิจใหม่ จะช่วยผลักดันให้ปีนี้สามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้