กรุงเทพฯ--16 เม.ย.--
Maxnet ขยายแบนด์วิธเพิ่มอีกเท่าตัวครอบคลุมทุกมุมโลก Maxnet บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากทีทีแอนด์ที ผนึกกำลัง 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตชั้นนำของโลก ขยายแบนด์วิธเพิ่มอีกเท่าตัวครอบคลุมทุกมุมโลก และพัฒนาระบบโครงข่ายการเชื่อมต่อให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น บริษัท ทีทีแอนด์ที ซับสไครเบอร์ เซอร์วิสเซส จำกัดในเครือทีทีแอนด์ที ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงภายใต้ชื่อ Maxnet เพิ่มศักยภาพในการให้บริการและรองรับการขยาย ฐานลูกค้า โดยในไตรมาสแรกนี้ได้ลงทุนขยายแบนด์บิธต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จาก 1.9 Gbps เป็น 3.88 Gbps ซึ่งการลงทุนขยายแบนด์บิธต่างประเทศนี้ได้วางแผนโครงข่ายให้มีประสิทธิภาพสูงและมีความเสถียรมากขึ้นครอบคลุมทุกมุมโลก โดยการผนึกกำลัง 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตชั้นนำของโลก และนอกจากการขยายแบนด์บิธต่างประเทศแล้ว ยังได้ขยายแบนด์วิธภายในประเทศเพิ่มเป็น 18 Gbps เพื่อให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงMaxnet สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็วและมีเสถียรภาพมากขึ้น ย้ำจุดยืนความมุ่งมั่นในการให้บริการอินเทอร์เน็ตประสิทธิภาพสูงจากทีทีแอนด์ที นายประจวบ ตันตินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีแอนด์ที ซับสไครเบอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทมีความมุ่งมั่นในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าของทีทีแอนด์ทีได้รับความสะดวกสบาย มั่นใจในคุณภาพ ความเร็วและความเสถียรในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากขึ้น จึงได้ขยายแบนด์วิธไปยังต่างประเทศ (International Bandwidth) ในไตรมาสแรกจากเดิมอีกเท่าตัว พร้อมทั้งวางแผนให้โครงข่ายมีประสิทธิภาพ มีความเสถียรสูงสุด โดยการผนึกกำลังกับกลุ่มพันธมิตรทั้ง 5 บริษัทชั้นนำของโลก ครอบคลุมทุกมุมโลก และออกแบบวงจรเชื่อมต่อให้มีความหลากหลาย เสริมสร้างความเสถียรแก่ระบบในการให้บริการ ซึ่งบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตชั้นนำของโลก 5 บริษัท ได้แก่ Hutchison Global Communications โดยขยายแบนด์วิธจำนวนสองเส้นทางเพิ่มขึ้นเป็น 1244 Mbps เชื่อมต่อเข้า Internet Node ที่ประเทศฮ่องกง KT Networks โดยขยายแบนด์วิธจำนวนสองเส้นทางเพิ่มขึ้นเป็น 1244 Mbps เชื่อมต่อเข้า Internet Node ณ เมือง Los Angeles สหรัฐอเมริกา Verizon Business เชื่อมต่อเข้า Internet Node ณ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ขนาด 155 Mbps NTT Communications เชื่อมต่อเข้า Internet Node ณ ประเทศสิงค์โปร์ ขนาด 622 Mbps TATA Communications (VSNL) เชื่อมต่อเข้า Internet Node ณ ประเทศสิงค์โปร์ ขนาด 622 Mbps นายประจวบ กล่าวว่า จากการขยายแบนด์วิธในครั้งนี้ ทำให้ Maxnet มีวงจรอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อออกไปยังต่างประเทศรวม 3.88 Gbps และมีหลากหลายเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อไปยังทุกพื้นที่ทั่วโลก ซึ่งจะมีทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางเสริม ในกรณีที่มีเหตุขัดข้อง อีกทั้งยังมีการขยายแบนด์วิธภายในประเทศเป็น 18 Gbps โดยการเพิ่มประสิทธิภาพและการขยายแบนด์วิธดังกล่าว บริษัทใช้เงินลงทุนเพิ่มกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งนอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนงานขยายเพิ่มวงจรต่างประเทศอีกในระยะต่อไป เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของจำนวนลูกค้าบริการอินเทอร์เน็ตความเร็ว Maxnet “นอกจากการลงทุนขยายแบนด์วิธต่างประเทศแล้ว บริษัทยังได้ลงทุนขยาย node เพิ่มอีกแห่งหนึ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของการให้บริการ รวมทั้งรองรับการให้บริการศูนย์รับฝากระบบคอมพิวเตอร์ (IDC) ขึ้น ซึ่งจะใช้เงินลงทุนอีกประมาณ 100 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีการขยายตัวและเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 รายภายในปีนี้ และมีรายได้ 3,000 ล้านบาท” นายประจวบ กล่าวในที่สุด