บมจ.รุ่งเรืองตลอดไป "GLORY" โชว์ฟอร์มแกร่ง อวดผลงานปี2565 เติบโตก้าวกระโดด โกยกำไรสุทธิพุ่ง 92.85% อยู่ที่ 28.96 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการขายและบริการเพิ่ม 46.06% หรือ 133.02 ล้านบาท พร้อมประกาศจ่ายปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท รวมมูลค่า 16.20 ล้านบาท ประกาศตั้งเป้ารายได้ปี66 โต 20-50% จากแรงหนุน New Line Business "เกมออนไลน์" คาดเปิดตัวปลายไตรมาส 1/66 นี้ จ่อลงทุนเพิ่มในกลุ่มสตาร์คอัพ 3-4 บริษัทในปีนี้
นายจรัญพัฒณ์ บุญยัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) "GLORY" ผู้จำหน่ายงานประเภทวรรณกรรมออนไลน์ (Startup Platform Online) ประกอบด้วย นิยาย การ์ตูน และหนังสือ เปิดเผยว่า จากความต้องการอ่านนิยายออนไลน์ในประเทศไทยที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลประกอบการในปี 2565 เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น โดยบริษัทฯมีกำไรสุทธิที่ 28.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.85% จากปีก่อน (Y-Y) ซึ่งคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 20.97% ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ เป็นผลมาจากการที่บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในปี 2565 ลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน อาทิ ค่าบริการที่ปรึกษาทางการเงิน ค่าบริการที่ปรึกษาทางกฎหมาย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการในปี 2565 ที่ 133.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.06% จากปีก่อน มาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มบริษัทฯที่เพิ่มการผลิตและจำหน่ายสินค้าใหม่ จำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2565 บริษัทฯ มี 6 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งวางจำหน่ายทาง 7-11 และเว็บไซต์การจำหน่ายสินค้า เช่น Lazada และ Shopee
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังคงมีรายได้จากการจำหน่ายวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง ที่ยังได้รับความนิยม อาทิ ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต, เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80, หมื่นอสูรก้มกราบ และเทพยุทธ์แห่งใต้หล้า รวมถึงงานวรรณกรรม ที่เริ่มวางจำหน่ายในปี 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก อาทิ หมื่นภพสยบใต้หล้า, ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชนบทตัวน้อยๆ, ความมั่งคั่งร่ำรวยมาถึงประตูของท่านแล้ว, ภรรยานายพรานตัวน้อยกับระบบร้านค้ามือสอง เป็นต้น โดยงานวรรณกรรมดังกล่าว ส่วนใหญ่ยังไม่จบบริบูรณ์ จึงทำให้มีจำนวนฐานสมาชิกที่ติดตามอ่านวรรณกรรมแต่ละเรื่องอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังเว็บไซต์เพื่อนบ้าน และการเปิดแพลตฟอร์มใหม่ "Jinovel" ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายได้มากขึ้น
"สำหรับรายได้อื่นๆ ของบริษัทฯ ในปี 2565 อยู่ที่ 5.10 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.69% ของรายได้รวม ซึ่งเพิ่มขึ้น 122.79% จากปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้ค่าที่ปรึกษาระบบ ERP ซึ่งเริ่มมีขึ้นในปี 2565 และรายได้จากค่าธรรมเนียมการเติมเงินจากแพลตฟอร์ม Jinovel ที่เปิดตัวใหม่ในปี 2565 ทั้งนี้ รายได้อื่นๆ ส่วนใหญ่ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมซึ่งเรียกเก็บจากการชำระเงินของลูกค้าสุทธิ ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารและผลตอบแทนจากเงินลงทุนในสินทรัพย์สภาพคล่อง รายได้ค่าเช่า และรายได้ค่าที่ปรึกษาระบบ ERP"
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2565 (1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2565) ในอัตรา 0.06 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 16,200,000 บาท โดยบริษัทฯ จะนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29 มีนาคม 2566 โดยประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น เพื่อขอมติอนุมัติต่อไป โดยบริษัทได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record date) ที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 7 เมษายน2566 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 เมษายน 2566
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2566 นายจรัญพัฒณ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโต ในปี 2566 เพิ่ม 20-50% ทั้งนี้เป็นผลมาจากแผนต่อยอดและการขับเคลื่อนทางธุรกิจ ตั้งแต่ช่วงปี 2565 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โดยในปีนี้บริษัทฯ จะเน้นเพิ่มไลน์ธุรกิจแนวคิดใหม่ (New Line Business) เพื่อการต่อยอดธุรกิจในการสร้างมูลค่าเพิ่ม สำหรับ New Line Business ที่จะเปิดตัวในช่วงปลายไตรมาส 1/2566 นี้ คือการเปิดตัวเกมออนไลน์ ซึ่งจะเป็นเกมแนว MMORPG (Massively Multiplayer Online Role Playing Game) หรือเกม RPG แบบออนไลน์ที่มีผู้เล่นจำนวนมาก ผ่านช่องทาง Mobile Application ทั้งใน iOS และ Android โดยคาดว่าภายในปี 2566 จะมีรายได้จากเกมดังกล่าวที่ประมาณ 10-20 ล้านบาท โดยมองว่าภาพรวมอุตสาหกรรมเกมออนไลน์ ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจากเกมออนไลน์เป็นหนึ่งในกิจกรรมความบันเทิงของเด็กวัยรุ่นสมัยใหม่
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเข้าลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Startup-SME ใหม่ๆ โดยในปีนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายเข้าลงทุนใน 3-4 บริษัท อาทิ กลุ่มธุรกิจ Media (สื่อ), กลุ่มธุรกิจ Healthcare (ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพของมนุษย์) และกลุ่มธุรกิจ Tech (เทคโนโลยี) ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจ New S-curve พร้อมทั้งมองว่าการเข้าไปลงทุนในกลุ่ม Startup-SME ดังกล่าว จะเป็นการสร้างโอกาสการต่อยอดการลงทุนทางธุรกิจให้กับ GLORY ในอนาคต
.