ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศแก่หุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional tier 1; AT1) ของธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) หรือ UOBT (อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว 'AAA(tha)'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ที่ 'A+(tha)' โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะมีสถานะด้อยสิทธิกว่าหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิและหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารและจะถูกรวมในการคำนวนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารตามเกณฑ์ของทางการ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับให้ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารที่ 'AAA(tha)' อยู่ 4 อันดับ โดยแนวทางในการจัดอันดับเครดิตดังกล่าวสอดคล้องกับการจัดอันดับเครดิตสำหรับตราสารหนี้ประเภทเดียวกันในกรณีที่ออกโดยธนาคารแม่ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งคือ United overseas Bank Limited (UOB; อันดับเครดิตสากล 'AA-'/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ) และจะสอดคล้องกับแนวทางพื้นฐานสำหรับการจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ประเภทดังกล่าวตามเกณฑ์ของฟิทช์
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ UOBT สะท้อนถึงความคาดหวังที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนพิเศษนอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติ (extraordinary support) จาก UOB ฟิทช์ใช้อันดับเครดิตซึ่งรวมปัจจัยสนับสนุนจากธนาคารแม่ (support-driven rating) ของ UOBT เป็นอันดับเครดิตอ้างอิงสำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 แทนที่จะใช้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวธนาคารเอง เนื่องจากฟิทช์เชื่อว่า UOB จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกในประเทศไทยล่วงหน้าเพื่อป้องกันภาวะวิกฤติ (pre-emptive) ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดการณ์ (non-performance risk)
เงื่อนไขและข้อกำหนดสิทธิที่สำคัญของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ดังกล่าว สอดคล้องกับเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งนี้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 สะท้อนว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่ได้มีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่ทำให้ความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดการณ์เพิ่มขึ้น เช่น เงื่อนไขที่จะต้องมีผลการดำเนินงานเป็นกำไรจึงจะชำระหนี้ได้ หรือการที่ธนาคารมีระดับเงินกองทุนหรือกำไรสะสมที่ต่ำผิดปรกติ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคตของ UOBT สามารถหาได้จากประกาศอันดับเครดิต "ฟิทช์คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารยูโอบี (ไทย)ที่ 'A-' และอันดับเครดิตภายในประเทศที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ" ลงวันที่ 27 เมษายน 2565
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ UOBT จะทำให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารถูกปรับลดอันดับ
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารอาจถูกปรับลดอันดับหากมีการปรับตัวลดลงอย่างมากของความสามารถของ UOB ที่จะให้การสนับสนุนแก่ UOBT เช่น การปรับลดลงหลายอันดับของอันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศของ UOB อาจส่งผลให้เกิดการทบทวนอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ UOBT
ทั้งนี้อาจมีความเสี่ยงในการปรับลดอันดับเครดิตหากโอกาสในการให้การสนับสนุนแก่ UOBT โดย UOB ปรับตัวลดลง เช่น การลดลงของสัดส่วนการถือหุ้นใน UOBT มาอยู่ต่ำกว่า 75% รวมถึงการลดระดับในการควบคุมบริหารงาน ความเชื่อมโยงในการดำเนินงานและกลยุทธ์ การลดลงของระดับความสัมพันธ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนอันดับเครดิตอ้างอิงเป็นอันดับความแข็งแกร่งของธนาคารเองและส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ถูกปรับลดอันดับลงมาหลายอันดับ อย่างไรก็ตามฟิทช์ไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของโอกาสในการให้การสนับสนุนในระยะปานกลาง
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวซึ่งใช้เป็นอันดับเครดิตอ้างอิงสำหรับอันดับเครดิตตราสารหนี้ด้อยสิทธิของ UOBT อยู่ในระดับสูงสุดแล้ว จึงไม่มีโอกาสได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิต
อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น และอันดับเครดิตภายในประเทศของ UOBT มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตของ ธนาคารแม่ซึ่งคือ UOB