SE เผยผลการดำเนินงานปี 2565 รายได้ 605.61 ล้านบาท กำไร 66.75 ล้านบาท โต 91.43% บอร์ดไฟเขียวเสนอแจกปันผลเป็นหุ้นอัตรา 27:1 และปันผลเป็นเงินสดรวม 0.0587 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 57.65% ของกำไรสุทธิฯ ทิศทางไตรมาส 1/66 โตต่อเนื่อง มุ่งเน้นเพิ่มไลน์สินค้า และ ขยายฐานลูกค้าโซนEEC ตุน Backlog 202.30 ล้านบาท
นายเกริก ลีเกษม รองประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท สยามอีสต์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SE เปิดเผยถึงผลประกอบการ ปี 2565 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 605.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 488.41 ล้านบาท จำนวน 117.20 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24% และมีกำไรสุทธิ 66.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 34.87 ล้านบาท จำนวน 31.88 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 91.43%
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 165.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 145.05 ล้านบาท จำนวน 20.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.34% และมีกำไรสุทธิ 19.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19.10 ล้านบาท จำนวน 0.72 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.77%
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัททยอยส่งสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์การจัดการกระบวนการผลิตและระบบท่อ รวมถึงบริษัทของลูกค้ามีการรับงานโครงการเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 27 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล เป็นจำนวนไม่เกิน 24.27 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 12.13 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าเท่ากับอัตราการจ่ายปันผล 0.0185 บาทต่อหุ้น
อีกทั้ง ยังมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0402 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 25 ล้านบาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.0587 บาท รวมเป็นเงิน 26.35 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนการจ่ายเงินปันผลประมาณ 57.65% ของกำไรสุทธิหลังหักการจัดสรรกำไรสุทธิเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับปันผลในรูปแบบของหุ้นปันผลและเงินสด (Record Date) ในวันที่ 10 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 โดยมติดังกล่าวเตรียมนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 วันที่ 28 เมษายน 2566 เพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/66 แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนภาครัฐและเอกชน โดยบริษัทมุ่งเน้นการจัดหาผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์ให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้า รวมถึงการเข้ารับงานในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ซึ่งถือเป็นพื้นที่หลักในการให้บริการของบริษัท และยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก
โดยบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 ประมาณ 202.30 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 146.30 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบ 56 ล้านบาท อีกทั้ง เดินหน้าประมูลงานภาครัฐ-เอกชนอย่างต่อเนื่อง