ฟอร์เวิร์ด (Forward) ฟินเทค-สตาร์ทอัพโกลบอล ด้านบล็อกเชนและนวัตกรรมการเงินการลงทุนด้านการเงินแบบกระจายศูนย์หรือ DeFi ตัดสินใจรีแบรนด์แพลตฟอร์ม DeFi ใหม่จาก Forward เป็น FWX เพื่อสื่อความหมายให้มีความเข้าใจถึงตัวผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนมากขึ้น โดย FWX มาจาก Forward ที่ถูกย่อลงเป็น FW เพื่อความทันสมัย และเพิ่ม "X" ที่มาจากคำว่า "Excellence" และ "Experience" ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจของ FWX ที่ต้องการสร้างระบบนิเวศน์ของแพลตฟอร์มให้เข้าถึงผู้ใช้ทั่วไปอย่างทั่วถึง และเตรียมมุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์ม DeFi ด้านผลิตภัณฑ์อย่างอนุพันธ์ (Derivatives) ชั้นนำของโลก โดยจะเริ่มปล่อยโปรดักต์ให้ได้ใช้กันในปี 2023 นี้
หลังจากประสบความสำเร็จปิดระดมทุนรอบ Seed Round กว่า 160 ล้านบาท หรือ 5 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ FWX ได้เริ่มต้นการระดมทุนในรอบ Series A ด้วยการลงทุนจากกลุ่มทุนชื่อดังของสิงคโปร์อย่าง Kyber Ventures ถือเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัทไปอีกขั้นของ ForwardX จากการผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ระดับสากล
นาย ชานน จรัสสุทธิกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FWX กล่าวว่า "การตัดสินใจเปลี่ยนแบรนด์และโลโก้ของบริษัท เป็นการย้ำจุดยืนของแพลตฟอร์ม สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนขึ้นและเพื่อสื่อต่อผู้ใช้งานให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ถึงรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่เรากำลังทำอยู่ คำว่า "Excellence" และ "Experience" ในบริบทของการเงินและเทคโนโลยี หมายถึงการมุ่งสู่ความเป็นผู้นำในการให้บริการและการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยให้คุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการสร้างความไว้วางใจและประสบการณ์ที่เหนือกว่าความคาดหมายของผู้ใช้ แม้หลายคนจะมอง DeFi อยู่ในช่วงตกต่ำ แต่ในทางตรงข้าม มันกลับทำให้เหล่าทีมนักพัฒนา รวมถึง FWX เอง ได้มีเวลาโฟกัส และพัฒนาโปรดักต์นี้อย่างเต็มที่ และการเปลี่ยนแปลงนี้ จะกลายเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของบริษัทเรา และเพื่อต่อยอดไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่อื่น ๆ ในอนาคตด้วย"
ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษา FWX กล่าวเพิ่มเติมว่า "FWX มีจุดยืนในการทำแพลตฟอร์ม DeFi ให้ปลอดภัย เข้าถึงง่าย และยั่งยืน ซึ่งตอนนี้ FWX ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย (Technical Audit) จาก 2 บริษัทชื่อดังคือ Valix และ Inspect และกำลังตรวจสอบความปลอดภัยกับบริษัทที่สาม คือ PeckShield ซึ่งถือเป็น Auditor ที่น่าเชื่อถือในระดับโลก รวมถึงยังมีการสร้าง Wallet ของตัวเอง ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์ม เพื่อลดความยาก และเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึง มากกว่านั้น ForwardX ใช้โมเดลการแจกผลตอบแทนกับผู้ใช้งาน ในแบบ "Real Yield" ซึ่งเงินที่นำมาเป็นผลตอบแทนจะมาจากผลกำไรจาก Business Model ของแพลตฟอร์ม มุ่งหวังแพลตฟอร์มให้เติบโตอย่างยั่งยืน"