บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ ปรับเกมรุกลุยผนึกความร่วมมือพันธมิตร "ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่" - "สถานีบริการน้ำมัน" Top 3 เมืองไทย ขยาย "ลูกชิ้นทิพย์" 2,000 สาขาทั่วประเทศ ชูคอนเซ็ป "ลูกชิ้นหมูมาตรฐานระดับพรีเมี่ยม ไม่มีส่วนผสมของแป้งสาลีและปราศจากสารบอแรกซ์" ตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพ พร้อมเดินหน้าขยายตลาดอาหารแช่แข็งเต็มรูปแบบ หลังโรงงานแห่งใหม่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลเรียบร้อยแล้ว ชี้กำลังการผลิตปัจจุบันพร้อมรองรับการเติบโตได้อีก 2 เท่าตัว ขณะที่ผลไม้อบแห้ง ตุน Backlog Order ในมือแล้วกว่า 500 ล้านบาท ปักธงรายได้รวมปี 2566 โตแตะ 3,000 ล้านบาท พลิกมีกำไร ยอมรับภาพรวมผลงานปี 2565 พลาดเป้าสาเหตุหลักมาจาก One Time จากการย้ายโรงงานใหม่ ยืนยัน ทีมบริหารล้างไพ่เคลียร์คัทปิดจบทุกปัญหาแล้ว
นางเพ็ญศรี สืบสุวงษ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON ผู้นำการผลิตและจำหน่ายสินค้าอาหารแปรรูปแช่เยือกแข็งและบรรจุภัณฑ์ เปิดเผยภาพรวมแผนการดำเนินงานและเป้าหมายการเติบโตในปี 2566 ว่า บริษัทฯปักธงรายได้รวมเติบโตแตะ 3,000 ล้านบาท พร้อมพลิกมีกำไร จากการปรับเกมรุกเดินหน้าผนึกความร่วมมือพันธมิตร "ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่" และ "สถานีบริการน้ำมัน" Top 3 ของเมืองไทย ขยายสาขา "ลูกชิ้นทิพย์" ทั่วประเทศ ภายใต้คอนเซ็ป ลูกชิ้นหมูมาตรฐานระดับพรีเมี่ยม ไม่มีส่วนผสมของแป้งสาลีและปราศจากสารบอแรกซ์ รองรับกระแสรักสุขภาพที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เบื้องต้นตั้งเป้าขยายเพิ่ม 2,000 สาขาภายในสิ้นปีนี้ แบ่งเป็น แบรนด์ตัวเอง (Own Brand) 20% และแฟรนไชส์ 80% จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 500 สาขา
พร้อมเดินหน้าขยายตลาดกลุ่มอาหารแช่แข็ง (Frozen Food) ภายใต้ "เอ็นพีพี ฟู้ด เซอร์วิส" หรือ NPPFS เต็มรูปแบบ หลังล่าสุดโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ จังหวัดสมุทรสาคร ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกำลังการผลิตปัจจุบันพร้อมรองรับการเติบโตได้อีกกว่า 2 เท่าตัว ขณะที่กลุ่มผลไม้อบแห้ง ( Dried Fruits) เตรียมปั้นแบรนด์ พร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เน้นสร้างมูลค่าเพิ่ม (High Value Added) รุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดมี Backlog Order ในมือแล้วกว่า 500 ล้านบาท
นางเพ็ญศรี บอกเพิ่มเติมว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทฯ ยังคงมีผลขาดทุนจำนวน 422 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากปัญหาการย้ายโรงงาน 2 แห่งพร้อมกัน ประกอบด้วย โรงงานอาหารแช่แข็ง และโรงงานผลไม้อบแห้ง ซึ่งการย้ายโรงงานแห่งใหม่ต้องใช้ระยะเวลาราว 3-4 เดือน สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบกระบวนการผลิตต่างๆ เพื่อรับรองมาตรฐานความปลอดภัย จึงส่งผลกระทบต่อการยอดขายของบริษัทฯอย่างมีนัยะ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ในปี 2565 บริษัทฯจะประสบปัญหาจากการย้ายโรงงานแห่งใหม่ แต่ภาพรวมรายได้ยังคงเติบโตกว่า 19.6% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 2,228 ล้านบาท เนื่องจากทีมบริหารได้เห็นปัญหา และเข้าไปดำเนินการแก้ไขอย่างมืออาชีพ มีการควบคุมกระบวนการภายในให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
ทั้งนี้ ปัจจุบัน บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ แบ่งธุรกิจเป็น 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1.ธุรกิจอาหาร ประกอบด้วย อาหารแปรรูปแช่แข็ง, อาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน, ลูกชิ้นและไส้กรอกหมู และผลไม้อบแห้ง สัดส่วน 73%, 2.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทต่างๆ สัดส่วน 24% และ 3.ธุรกิจเทรดดิ้ง สัดส่วน 3% ของรายได้รวม