BIS เผยงบปี รายได้รวม 2,219 ล้านบาท กำไรสุทธิ 59.67 ล้าน บอร์ดอนุมัติ จ่ายปันผล 0.12 บาท มั่นใจธุรกิจใหม่ ESG ติดตั้งแผงโซล่า เตาเผาซากสัตว์ไฮเท็ค กลุ่มผลิตภัณฑ์บำบัดน้ำเสีย หนุนผลงานโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าปีนี้ โต 15-20%
บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIS มั่นใจธุรกิจใหม่ อนาคตสดใส ลูกค้าฟาร์มปศุสัตว์ตอบรับดีมาก ล่าสุดเซ็นต์สัญญาโซล่า รูฟท็อป และเตาเผาทำลายซากสัตว์ไฮเท็คแล้วหลายโครงการ คาดหนุนรายได้ กำไรเติบโตเข้าเป้า แถมธุรกิจหลัก จำหน่ายยาและเวชภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่เติบโตค่อนข้างสูง
นายสัตวแพทย์ ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ "BIS" ผู้นำยา วัคซีน และเวชภัณฑ์สัตว์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำปี 2565 "บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,219 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,986.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 223.18 ล้านบาท คิดเป็น 11.74% และมีกำไรสุทธิ 59.67 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 68.63 ล้านบาทท โดยอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 2.69% ขณะที่ปี 2564 อยู่ที่ 3.45% โดยมีสาเหตุหลักมาจากบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นที่ลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิในภาพรวมลดลง
ซึ่งรายได้ของบริษัทที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมีปัจจัยหลักมาจาก 2 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เพื่อการวินิจฉัยโรคสำหรับสัตว์ (Diagnostic) และผลิตภัณฑ์วัตถุดิบอาหารสัตว์ (Ingredient) โดยมีสาเหตุหลักมาจากสินค้ากลุ่มเพื่อการวินิจฉัยโรคสำหรับสัตว์ (Diagnostic) ได้แก่ 1.ชุดเครื่องตรวจสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เติบโตขึ้น เนื่องจากตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงมากยิ่งขึ้นและการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมทางการตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 2. ชุดเครื่องตรวจโรคสำหรับปศุสัตว์ยังคงมีความต้องการในตลาดสูงอย่างต่อเนื่องจากคุณภาพของสินค้าที่โดดเด่นของบริษัทฯ เพื่อให้ฟาร์มสุกรต้องใช้ตรวจคัดกรองโรค ASF ก่อนนำพ่อแม่พันธุ์ หรือลูกสุกรอนุบาลเข้าสู่ฟาร์ม และสำหรับผลิตภัณฑ์วัตถุดิบอาหารสัตว์ (Ingredient) บริษัทฯ สามารถขายสินค้าให้แก่กลุ่มลูกค้าโรงงานผลิตอาหารปศุสัตว์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มีความต้องการในวัตถุดิบอาหารสัตว์มากยิ่งขึ้น
"ในปี 2566 นี้ BIS มีแผนที่จะขยายธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ งานรับติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป จำหน่ายเตาเผากำจัดซากสัตว์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์บำบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นการนำโซลูชั่นและเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านพลังงาน และไบโอเท็ค รวมถึงนวัตกรรมที่ช่วยตอบโจทย์ลูกค้าหลักของ BIS ด้านประหยัดพลังงาน ลดภาวะโลกร้อน ดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี โดยยึดหลัก ESG ขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ BIS จะผนึกความเชี่ยวชาญด้านสัตว์แพทย์ ความเชี่ยวชาญด้านการตลาดและการขาย กับความสามารถด้านเทคโนโลยี วิศวกรรม และไบโอเท็คของพันธมิตรต่างๆ เพื่อความสำเร็จของลูกค้าและพันธมิตรธุรกิจทุกราย โดยล่าสุด BIS ได้เซ็นสัญญาติดตั้งแผงโซล่ารูฟท็อปแล้ว 2 โครงการ และกำลังเสนองานเพิ่มอีกนับสิบโครงการ ในขณะที่ โครงการเตาเผาไฮเท็ค อยู่ระหว่างเสนอโครงการขนาดใหญ่ และลูกค้าระดับนานาชาติหลายราย "
" BIS ตั้งเป้าสร้างผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรายได้หลักของบริษัทฯ มาจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำของอุตสาหกรรมอาหาร และรายได้บางส่วนจากธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงซึ่งมีการเติบโตค่อนข้างสูง โดยบริษัทฯ พยายามที่จะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้สูงขึ้น และสร้างอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ดี ซึ่งบริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์การผลิตสินค้าแบรนด์ของบริษัทฯ เองแทนการจ้างผลิต เพื่อเพิ่มรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ วัตถุดิบอาหารสัตว์ และลงทุนในการพัฒนาวัคซีนสำหรับสัตว์ โดยร่วมมือกับนักวิจัยจากสถาบันวิจัยชั้นนำของประเทศ เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ทดแทนการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ และการเพิ่มสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูงซึ่งช่วยขยายตลาดให้ดียิ่งขึ้น" นายสัตวแพทย์ธนวัฒน์ กล่าว
BIS ยังคงมุ่งพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยโรคในสัตว์และในมนุษย์ เพื่อเสริมสร้างจุดแข็งเดิม ได้แก่ การเป็นผู้นำเข้าวัคซีน ยา เวชภัณฑ์ระดับโลก การมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ทั่วประเทศในอุตสาหกรรมอาหารของไทยที่มีมูลค่าการส่งออกอาหารสูงติดอันดับโลก และความสำเร็จในการสร้างสรรค์ นวัตกรรมที่สามารถแก้ปัญหาด้านสุขอนามัยของโลก เช่น การผลิตชุดตรวจโควิด-19 แบบ Real time PCR ซึ่งเป็นผู้ผลิตไทยรายแรกที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองมาตรฐาน และการผลิตชุดตรวจโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร หรือ ASF ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างดีเยี่ยมและยอดขายเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง