EXIM BANK คว้ารางวัล Best Green Bond ประเภทสถาบันการเงิน จากเวทีระดับโลก The Asset Triple A Awards 2022 จัดโดย The Asset นิตยสารการเงินชั้นนำแห่งเอเชีย จากการเสนอขายพันธบัตรเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Bond) 2 รุ่น มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท เพื่อระดมทุนไปใช้สนับสนุนสินเชื่อให้แก่โครงการพลังงานสะอาดที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนชั้นนำและสามารถระดมทุนได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ดีในช่วงที่ตลาดเงินมีความผันผวนและดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับเป็นขาขึ้น
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า รางวัล Best Green Bond ประเภทสถาบันการเงิน จากเวทีระดับโลก The Asset Triple A Awards 2022 แสดงถึงความสำเร็จของ EXIM BANK ภายใต้บทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (Thailand Development Bank) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ตามแนวทางขององค์การสหประชาชาติ รวมทั้งสัตยาบันที่รัฐบาลไทยร่วมให้ไว้ในที่ประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP 26) ซึ่งตั้งเป้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net-zero Emissions) ภายในปี 2608 โดย EXIM BANK มีแผนจะระดมทุนภายใต้กรอบการระดมทุนเพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง และดำเนินงานตามนโยบายด้านการบริหารจัดการการเงินอย่างมีความรับผิดชอบและนโยบายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ Green Bond ของ EXIM BANK ทั้ง 2 รุ่น มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท มีธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) เป็นที่ปรึกษาในการจัดทำกรอบการระดมทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance Framework) ธนาคารออมสินเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายพันธบัตร และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายพันธบัตร และนายทะเบียนพันธบัตร โดยออกพันธบัตรเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดเงินมีความผันผวนและดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับเป็นขาขึ้น และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนชั้นนำ
"EXIM BANK ให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่ธุรกิจเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือธุรกิจ BCG ไปแล้วกว่า 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวมของธนาคาร หรือประมาณ 50,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายจะขยายสินเชื่อที่ให้แก่ธุรกิจ BCG อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกับประชาคมโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ โดยจะทำงานอย่างใกล้ชิดและแข็งขันร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมและพัฒนาระบบการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้าง Supply Chain ของไทยเชื่อมโยงกับ Supply Chain ของโลกที่สะอาดและนำไปสู่การพัฒนาของทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน" ดร.รักษ์ กล่าว