กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลการทบทวนอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN ที่ระดับ “AA-” เท่าเดิม นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังยกเลิกผลอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท (SHIN075A) ของบริษัทเนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวถูกไถ่ถอนก่อนกำหนด ทั้งนี้ อันดับเครดิตองค์กรของบริษัทสะท้อนสถานะความน่าเชื่อถือของบริษัทหลัก 2 แห่งที่บริษัทลงทุน คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และ บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SATTEL โดยการจัดอันดับเครดิตยังได้พิจารณาถึงความสามารถและประสบการณ์ของคณะผู้บริหาร รวมทั้งความคล่องตัวและความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทด้วย ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังคงแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งมาจากสถานะความน่าเชื่อถือของบริษัทลูกและบริษัทย่อยที่สำคัญทั้ง 2 แห่ง คือ ADVANC และ SATTEL โดยทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงมีกระแสเงินสดจากการได้รับเงินปันผลจาก ADVANC อย่างสม่ำเสมอ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า SHIN ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนหรือโฮลดิ้งซึ่งมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2547 จำนวน 39,600 ล้านบาท โดยมีเงินลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์คิดเป็นมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2547 รวม 150,000 ล้านบาท บริษัทเน้นการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม โดยมีธุรกิจสื่อโฆษณาและพาณิชย์อิเล็กทรินิกส์ (E-business) เพิ่มเข้ามาเพื่อความหลากหลายและเพื่อเสริมมูลค่าธุรกิจของกลุ่ม นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทยังได้ลงทุนในธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำและธุรกิจสินเชื่อเพื่อการบริโภคเพื่อเพิ่มความหลากหลายของบริการด้วย
ในขณะที่ ADVANC ยังคงความเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ส่วน SATTEL นั้นดำเนินธุรกิจหลักด้านการให้บริการเช่าช่องสัญญาณดาวเทียม และอยู่ในระหว่างการทดสอบดาวเทียมไอพีสตาร์ที่จะเปิดให้บริการในช่วงครึ่งหลังของปี 2548 โดยล่าช้าจากแผนเดิมที่กำหนดไว้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2547 ทั้งนี้ คาดว่าผลกำไรที่ SHIN จะได้รับจาก SATTEL จะสูงขึ้นเมื่อดาวเทียมไอพีสตาร์พร้อมให้บริการ
ทริสเรทติ้งกล่าวต่อไปว่า SHIN ยังมีนโยบายที่ชัดเจนในการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ในสัดส่วนที่มากพอเพื่อให้มีอำนาจในการควบคุมการบริหารจัดการและการเงินของบริษัทในเครือได้ โดยบริษัทจะแต่งตั้งผู้บริหารในกลุ่มเข้าไปเป็นผู้บริหารระดับสูงในตำแหน่งสำคัญในบริษัทในเครือ เช่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (CFO) ทั้งนี้ ผู้บริหารในกลุ่มล้วนมีประสบการณ์ที่ยาวนานและมีความรู้ความสามารถในการบริหารงานในสายงานธุรกิจที่รับผิดชอบ
ในส่วนของกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายซึ่งไม่รวมส่วนแบ่งผลกำไรในบริษัทย่อย กิจการร่วมค้า และบริษัทร่วมนั้น SHIN มีสัดส่วนของกำไรดังกล่าวที่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงเนื่องมาจากลักษณะของการดำเนินงานแบบบริษัทโฮลดิ้งซึ่งต้องมีการปรับปรุงระดับเงินลงทุนให้เข้ากับช่วงเวลาที่ผ่านมา ความสามารถในการระดมเงินทุนแม้ในช่วงที่ภาวะตลาดเงินตลาดทุนไม่เอื้ออำนวยเป็นสิ่งพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของกลุ่มสำหรับนักลงทุนซึ่งช่วยสนับสนุนความยืดหยุ่นทางการเงินให้แก่บริษัท ถึงแม้การลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นไปเพื่อการดำเนินธุรกิจโฮลดิ้ง แต่มูลค่าตลาดที่สูงจากการลงทุนดังกล่าวจะเป็นแหล่งสภาพคล่องที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท โดยบริษัทมีเงินลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่ามากกว่าหนี้สินรวมของกลุ่มในปลายปี 2547 เกินกว่า 7 เท่า ทริสเรทติ้งกล่าว--จบ--